หอการค้าไทยหนุนรัฐยกระดับทีมเจรจา ‘ทีมไทยแลนด์’ เผชิญวิกฤตภาษีทรัมป์-แนะทางรอดพุ่งเป้าอาเซียนบวก 3
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยคนใหม่ เปิดเผยถึงผลกระทบจากกรณีสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทยอัตรา 36% ว่า ค่อนข้างพึงพอใจกับ 5 แนวทางเจรจาปรับดุลการค้ากับสหรัฐ ที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้
ซึ่งตนได้มีโอกาสเข้าพบและพูดคุยกับนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ และนายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี ถึงมุมมองของภาคเอกชนในด้านต่างๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเห็นว่ามาตรการส่วนใหญ่มาถูกทาง
“การเตรียมความพร้อมไม่ควรจำกัดอยู่แค่การเจรจาเรื่องภาษี (Tariff) เท่านั้น แต่ต้องครอบคลุมถึงมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTMs) ในหลายด้าน ทั้งสุขอนามัย กฎหมายบังคับใช้ การกำกับสินค้าผ่านแดน เป็นต้น” นายพจน์กล่าว พร้อมเสนอให้ยกระดับเป็น ‘ทีมไทยแลนด์’ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ประธานหอการค้าไทยยังแสดงความกังวลว่าหากการเจรจาระหว่างประเทศต่างๆ กับสหรัฐไม่เป็นผล และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงยืนยันนโยบายภาษีนำเข้าสูง จะส่งผลให้เกิดความบิดเบี้ยวในระบบการผลิตและการค้าโลก โดยเฉพาะเมื่อสินค้าจากประเทศต่างๆ จะทะลักเข้ามาแข่งขันในตลาดอื่นๆ มากขึ้น
สำหรับมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชน นายพจน์เสนอให้เร่งเยียวยาผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งหันมาให้ความสำคัญกับตลาดอาเซียนบวก 3 (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) มากขึ้น เนื่องจากมีประชากรรวมกันกว่า 2,000 ล้านคน และมีห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่น
“ผมเชื่อว่านโยบายของทรัมป์รอบนี้จะเปลี่ยนเกมการค้าโลกแน่นอน ไทยต้องปรับตัวและมองหาพันธมิตรทางการค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะในภูมิภาค” ประธานหอการค้าไทยกล่าวทิ้งท้าย