จากกรณีที่ นายโจเซฟ อิไท ริโนโมต้า อายุ 30 ปี สัญชาติอังกฤษ เสียชีวิตหลังขึ้นเวทีครั้งแรกต่อยมวยไทย 5 ยก กับซุปเปอร์เล็ก ที่สนามมวยอินเตอร์สมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย และนายทะเบียนกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยว่า ในนามของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับนักมวยชาวอังกฤษที่เสียชีวิต เบื้องต้นทางสำนักงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประสานไปทางกกท.สุราษฎร์ธานี พบว่า ทางนายสนามมวยอินเตอร์สมัย ในฐานะผู้จัด ได้ทำผิดฝ่าฝืนพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 มาตราที่ 14 คือเรื่องของความปลอดภัยในการจัดการแข่งขัน

นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ในฐานะสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยและเป็นนายทะเบียนกีฬามวย ด้วยนั้น เมื่อพบการฝ่าฝืน ต้องมีการลงโทษตามมาตรา 39 ซึ่งตอนนี้ได้ลงโทษเบื้องต้นไปก่อนก็คือพักใบอนุญาต 1 เดือน จากนั้นเราจะต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพ เพื่อมาดูบทลงโทษขั้นต่อไป โดยเรื่องนี้มีการรายงานให้กับคณะกรรมการรับทราบเรียบร้อย

“บทลงโทษที่หนักกว่านี้ก็จะมีแบน 3-6 เดือน หรือยึดใบอนุญาตถาวรเลย ซึ่งต้องรอผลการตรวจที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่ามีการทำผิดกฎอะไรที่มากกว่านี้หรือไม่ ในชั้นต้นเราให้ความสำคัญการจัดการแข่งขันที่ผิดตามมาตรา 14 ไว้ก่อน นอกจากผลชันสูตรฯ ก็ยังต้องดูเรื่องการจัดการแข่งขันเช่นการจัดคู่มวย เพราะเหตุที่เกิดขึ้นนักมวยต่อยเป็นครั้งแรก ก็ควรเอานักชกที่ขึ้นไฟต์แรกมาชกกัน ดังนั้นยังมีรายละเอียดที่ต้องดูเพิ่มเติม ก่อนจะลงโทษหนักต่อไป” นายณัฐพล กล่าวเสริม

ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กล่าวปิดท้ายว่า เรื่องมาตรฐานในการชกถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ทางคณะกรรมการย้ำว่าจะต้องมีการตรวจ กำกับ ดูแล หรือติดตามอย่างเข้มข้น จะต้องประสานงานกับผู้ช่วยทั้ง 77 จังหวัด ในการเข้าไปดูแลการแข่งขันทุกรายการ ต้องยอมรับว่ามวยมีต่อยทุกวัน และก็เป็นกีฬาที่มีความเสี่ยง ฉะนั้นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับมาตรา 14 นั้นมี 3 ข้อสำคัญก็คือ 1.นักกีฬาจะต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนขึ้นชกทุกคน ซึ่งข้อนี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้มีการตรวจสุขภาพแล้ว นักกีฬามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อย่างไรก็ตามฝ่ายจัดการแข่งขันขาดอีก 2 ข้อที่เหลือ ก็คือ 2.การมีแพทย์ประจำสนามและรถพยาบาล ซึ่งเมื่อเกิดเหตุขึ้นต้องมีแพทย์เข้าไปดูแลอย่างรวดเร็ว แต่ในกรณีนี้คือไม่มี และข้อ 3 คือการทำประกันให้กับนักมวย ซึ่งก็ไม่มีเช่นกัน แต่ในข้อ 3 นี้ทางสนามยืนยันว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด