นครพนม – นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อติดตามความคืบหน้าและให้แนวทางการดำเนินงานด้านการปราบปรามสินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล "Zero Tolerance : สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์" โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของรัฐและระบบการค้าที่เป็นธรรม

การลงพื้นที่ครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อขยายผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย และตัดวงจรการขนส่งสินค้าเหล่านี้ โดยเน้นย้ำตามแนวพื้นที่ชายแดน ซึ่งจังหวัดนครพนมถือเป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีจุดผ่านแดนหลายแห่ง ทั้งทางบกและทางน้ำ ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย

นายเผ่าภูมิ ได้ตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติงานของสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนม โดยเฉพาะการตรวจสอบและควบคุมการปล่อยน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งขาเข้าและขาออกจากประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางที่อาจเกิดการทุจริตหรือลักลอบได้ ท่านได้ชื่นชมผลการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่สรรพสามิตในพื้นที่ที่มีการจัดเก็บภาษีและการปราบปรามที่ดีอย่างต่อเนื่อง

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นน้ำมันเถื่อนและสินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนมดำเนินการอย่างเข้มข้นและเป็นระบบ ดังนี้:

1. จัดกำลังชุดตรวจสรรพสามิตปล่อยน้ำมัน: กำชับให้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสอบการส่งออกและนำเข้าน้ำมันอย่างเข้มงวด โดยแบ่งเป็น:

   • ขาออก (ส่งออก): จัดเจ้าหน้าที่ประจำ 3 จุดสำคัญ คือ 1) จุดอาคาร R8 2) จุดอาคารตรวจสอบสินค้ากรมสรรพสามิต และ 3) จุดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย–ลาว 3
   • ขากลับ (นำเข้า): จัดเจ้าหน้าที่ประจำ 1 จุดสำคัญ บริเวณสะพานมิตรภาพไทย–ลาว 3

2. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจสรรพสามิต: จัดชุดสายตรวจเคลื่อนที่ จำนวน 5 สาย เพื่อออกตรวจตราและเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนตามแนวชายแดน ครอบคลุมทั้งเส้นทางทางบกและทางน้ำใน 6 ด่านจุดผ่านแดน ได้แก่:

   • จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน)
   • จุดผ่านแดนถาวร ท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม
   • จุดผ่อนปรนบ้านหนาดท่า
   • จุดผ่อนปรนบ้านโพธิ์ไทร
   • จุดผ่อนปรนบ้านธาตุพนมสามัคคี
   • จุดผ่อนปรนบ้านทาอุเทน

นายเผ่าภูมิ กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลงานที่ดีของสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนม ถือเป็นตัวอย่างของการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามนโยบาย "Zero Tolerance" เพื่อให้การลักลอบสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตหมดไปจากประเทศไทยอย่างแท้จริง

มาตรการที่เข้มงวดนี้คาดว่าจะช่วยสกัดกั้นการนำเข้าน้ำมันเถื่อนและสินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการที่เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย