เซเลนสกี ‘พร้อมพบปูตินที่ตุรกี’ เปิดทางเจรจายุติสงคราม
เคียฟ, ยูเครน – ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ประกาศความพร้อมที่จะเดินทางไปยังนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อพบปะหารือแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคมนี้ เพื่อแสวงหาหนทางในการยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี
การแสดงท่าทีดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านทรูธโซเชี่ยล (Truth Social) เรียกร้องให้ยูเครนตอบรับข้อเสนอของนายปูตินที่ต้องการเจรจาโดยตรงระหว่างสองประเทศในตุรกี
ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ยืนยันการตัดสินใจของตน โดยระบุว่า “ไม่มีเหตุผลในการยืดเวลาของการสังหาร และผมจะรอปูตินที่ตุรกีในวันพฤหัสบดีอย่างเป็นการส่วนตัว”
อย่างไรก็ตาม นายเซเลนสกีได้เน้นย้ำเงื่อนไขสำคัญของการเจรจาครั้งนี้ โดยกล่าวว่า ยูเครนยังคงเปิดกว้างสำหรับการพูดคุยกับรัสเซีย แต่การหารือดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นภายหลังที่มีการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น
“เรารอคอยการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์และถาวร เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม) เพื่อให้มีพื้นฐานที่จำเป็นทางการทูต” นายเซเลนสกีกล่าวเพิ่มเติม เป็นการแสดงความหวังว่ารัสเซียจะเห็นพ้องกับการหยุดยิงก่อนที่จะมีการประชุมเกิดขึ้นจริง
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่บรรดาผู้นำประเทศในยุโรป ซึ่งเป็นแกนนำของ “กลุ่มพันธมิตรแห่งความเต็มใจ” (Coalition of the Willing) ได้เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และเข้าพบหารือกับนายเซเลนสกีเมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ระหว่างการเยือนครั้งนั้น ชาติตะวันตกได้เรียกร้องให้รัสเซียหยุดสู้รบเป็นเวลา 30 วัน โดยให้เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พร้อมทั้งมีการขู่ว่ายุโรปจะพิจารณายกระดับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียให้มีความเข้มงวดและเด็ดขาดมากยิ่งขึ้น
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ประธานาธิบดีปูตินก็ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย เสนอที่จะจัดการเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีเซเลนสกี
ในส่วนของนายทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้ที่กระตุ้นให้เกิดการตอบรับข้อเสนอการเจรจา ได้โพสต์ข้อความผ่านทรูธโซเชี่ยลแสดงความเห็นสนับสนุนการหารือทันที โดยระบุว่ายูเครนควรตอบตกลงในทันที และการพบปะครั้งนี้จะช่วยให้หนทางในการยุติสงครามมีความชัดเจนมากขึ้น
“อย่างน้อยพวกเขาก็จะสามารถตัดสินใจได้ว่าข้อตกลงนั้นเป็นไปได้หรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้น บรรดาผู้นำยุโรปและสหรัฐฯ จะรู้ว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างไรและสามารถดำเนินการต่อได้” นายทรัมป์กล่าว และเสริมด้วยข้อความเชิงเร่งรัดว่า “จัดการประชุมกันตอนนี้เลย!”
การที่ทั้งสองฝ่ายแสดงท่าทีพร้อมสำหรับการเจรจา แม้จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันอยู่ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการหยุดยิง สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการเปิดช่องทางการทูตครั้งใหม่ แต่ความสำเร็จของการประชุมที่เสนอขึ้นนี้ยังคงขึ้นอยู่กับความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายในการประนีประนอมและหาจุดร่วม