คอมป์ตัน, แคลิฟอร์เนีย – เหตุการณ์สุดช็อกเกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อพวกเขากำลังเตรียมจัดพิธีฝังศพสำหรับญาติผู้ล่วงลับ แต่กลับพบว่าศพที่อยู่ในโลงนั้นไม่ใช่คนในครอบครัวของพวกเขา แต่เป็นศพของชายอื่นที่ถูกนำมาสวมใส่เสื้อผ้าของผู้ตาย ทำให้ครอบครัวตัดสินใจยื่นฟ้องบริษัทรับจัดงานศพ

รายงานข่าวจากต่างประเทศระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นางอาเมนธา ฮันต์ (Amentha Hunt) ได้เดินทางไปยังบริษัทรับจัดงานศพแห่งหนึ่งในเมืองคอมป์ตัน เพื่อเตรียมตัวสำหรับพิธีฝังศพของนายโอติส แอดคินสัน (Otis Adkinson) คุณลุงวัย 80 ปีของเธอ

ทว่า เมื่อเธอไปถึงและได้เห็นศพที่อยู่ในโลง เธอกลับพบความผิดปกติอย่างรุนแรง

“ฉันมองไปที่ศพในโลง และพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่ที่นั่น เขาสวมใส่ชุดที่คุณป้าของฉันได้เลือกไว้ให้กับคุณลุง แต่ใบหน้าของเขาไม่ใช่คุณลุงของฉันเลย” นางฮันต์ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น “ฉันเอาแต่มองหน้าเขา แล้วคิดในใจว่า เป็นไปไม่ได้ที่ผิวของคุณลุงจะคล้ำขึ้นได้ขนาดนี้”

นางฮันต์พยายามแจ้งเรื่องความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับพนักงานของบริษัทรับจัดงานศพในทันที แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองที่ดีนักในตอนแรก โดยพนักงานยังคงยืนยันว่า ชายที่อยู่ในโลงคือคุณลุงของเธอจริง ๆ

“นั่นไม่ใช่ลุงฉันค่ะ!” นางฮันต์กล่าวเพื่อยืนยันอย่างหนักแน่น

เธอจึงตัดสินใจนำรูปภาพของคุณลุงโอติสให้พนักงานดูเป็นหลักฐาน เมื่อพนักงานได้เห็นรูปภาพดังกล่าว ถึงได้ตระหนักว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นจริง

“อุ้ย! จริงค่ะ คุณพูดถูก กรุณารอสักครู่นะคะ” พนักงานกล่าวหลังจากได้เห็นรูปภาพ

นางฮันต์เล่าว่า เธอและครอบครัวต้องรออยู่นานถึง 3 ชั่วโมง เพื่อให้ทางบริษัทรับจัดงานศพแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะสามารถดำเนินการฝังศพของคุณลุงโอติส แอดคินสัน ได้ในที่สุด

ทั้งนี้ ณ เวลานี้ ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ศพของชายแปลกหน้าที่อยู่ในโลงศพซึ่งสวมชุดของคุณลุงโอติสนั้นเป็นของใคร

ด้านนายเอลวิส แทรน (Elvis Tran) ทนายความของครอบครัวแอดคินสัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “การที่ครอบครัวมาถึงสถานที่จัดงานศพแล้วพบว่าศพที่เตรียมไว้ไม่ใช่ของคนในครอบครัว และทางบริษัทจัดงานศพยังปฏิเสธในตอนแรกว่าเป็นความผิดของพวกเขา นี่เป็นเรื่องที่ควรได้รับการดูแลจัดการอย่างดี แต่พวกเขากลับทำพลาดอย่างร้ายแรง”

ทนายความเสริมว่า “พวกเขาจำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการทำงานของตนเองให้ดีขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่น ๆ อีก”

นางอาเมนธา ฮันต์ ยอมรับว่า เธอยังคงรู้สึกบอบช้ำทางจิตใจอย่างมากจากการที่ต้องเห็นศพของคนอื่นสวมใส่ชุดที่เธอเป็นคนเลือกให้กับคุณลุงผู้เป็นที่รัก

“มันเจ็บปวดมากค่ะ ที่เห็นใบหน้าของศพคนอื่น ฉันยังจำหน้าของเขาได้อยู่เลย” เธอกล่าวด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ