เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานเรื่องราวน่าเศร้าของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งที่ต้องพบกับความเจ็บปวดในคืนวันแต่งงาน หลังจากที่เจ้าสาวซึ่งถือพรหมจรรย์มาตลอด 40 ปี ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกได้ เนื่องจากพบว่าเยื่อพรหมจรรย์ของเธอหนามากจนต้องเข้ารับการผ่าตัด

ซาราห์ โจนส์-กรีน อายุ 44 ปี คบหากับมาร์ติน กรีน สามีของเธอเมื่อ 4 ปีก่อน โดยระหว่างคบหากันเธอบอกกับเขาว่า เธอจะไม่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับเขาจนกว่าจะแต่งงาน เนื่องจากเธอเติบโตในครอบครัวคริสเตียน และเพื่อให้เกียรติกับความเชื่อของเธอด้วย

เธอยังมองว่าความใกล้ชิดทางกายเป็น “สิ่งพิเศษ” และไม่ต้องการเสียพรหมจรรย์ให้กับการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราวหรือความสัมพันธ์แบบไม่ผูกพัน

กระทั่งวันแต่งงานของทั้งคู่ พวกเขาพยายามมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แต่เจ้าสาวกลับพบว่ามันเจ็บปวดเกินไป ภายหลังเธอได้ไปพบแพทย์ ก่อนพบว่า เธอมีภาวะเยื่อพรหมจรรย์ชนิดที่เปิดเพียงเล็กน้อย (Microperforate Hymen)

โดยเยื่อพรหมจรรย์ชนิดนี้จะปกคลุมปากช่องคลอดเกือบทั้งหมด และมีช่องเปิดเพียงขนาดแคบและเล็ก ซึ่งเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อส่วนเกินออก

แพทย์ของซาร่าห์เริ่มการประเมินโดยการถามเกี่ยวกับอาการของเธอ และสงสัยว่าอาจเป็นภาวะที่ช่องคลอดหดตัวโดยไม่ตั้งใจเมื่อพยายามสอดใส่

แต่เจ้าสาวยืนยันว่า อาการเจ็บของเธอเป็นเพียงปัญหาทางร่างกาย และไม่ได้รู้สึกว่ามีอุปสรรคทางจิตใจในการเสียพรหมจรรย์

ซาราห์ เล่าว่า “ฉันรอมาเป็นเวลานานมาก ฉันแค่อยากสัมผัสประสบการณ์เช่นเดียวกับคนอื่นๆ แม่ของฉันก็รอจนแต่งงานแล้วถึงจะมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน”

“ฉันจำได้ว่าแม่ของฉันก็ประสบปัญหาเดียวกันในคืนแต่งงานของเธอ และสงสัยว่าปัญหาของเธออาจเป็นทางกรรมพันธุ์หรือเปล่า”

ขณะเดียวกัน ซาราห์ได้พูดถึงสามีของเธอว่า “ฉันรอถึง 4 ปีเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับเขา มาร์ตินดูแลฉันอย่างดีตลอดเวลา เราพูดคุยเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่เรายังคุยกันผ่านแอปฯ และเขาก็น่ารักและเข้าใจในเรื่องนี้”

ปัจจุบัน ซาราห์อยู่ในรายชื่อรอการผ่าตัดเยื่อพรหมจรรย์ ซึ่งเป็นขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเยื่อส่วนเกินออกจากเยื่อพรหมจรรย์ โดยเสียค่าผ่าตัดประมาณ 1,288 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 44,000 บาท เธอกังวลมาก และอยากจะเริ่มต้นครอบครัวโดยเร็วที่สุด