ช็อกกลางป่า! สาวโดนถีบหน้า-ตบยับคาทริปเดินป่า เหตุหึงหวงแฟนเพื่อนร่วมทริป วอนทัวร์คัดกรองลูกทัวร์ โร่แจ้งความเอาผิดแล้ว

เรื่องราวสุดอุทาหรณ์ในวงการนักเดินทางและผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อนักท่องเที่ยวสาวรายหนึ่งได้โพสต์เล่าประสบการณ์สุดช็อก ขณะเข้าร่วมทริปเดินป่า แต่กลับถูกเพื่อนร่วมทริปทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง เพียงเพราะความเข้าใจผิดเรื่องการหึงหวงแฟน ล่าสุดเจ้าตัวได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว พร้อมวอนผู้ประกอบการทัวร์ให้ความสำคัญกับการคัดกรองลูกทัวร์เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้

เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยผ่านโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งได้ระบุข้อความเตือนใจไปยังผู้จัดทัวร์ต่างๆ ให้พิจารณาถึงการคัดเลือกลูกทัวร์ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นที่เธอประสบมา เธอกล่าวว่าไม่เคยเจอคนลักษณะนี้มาก่อนตลอดการเดินทางหลายทริปที่ผ่านมา จุดเริ่มต้นของความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อเธอเกือบถูกสาดน้ำร้อนใส่ แต่โชคดีที่ผ้าใบเต็นท์ช่วยกั้นไว้ได้ทัน ทำให้เธอและเพื่อนชายอีกคนรอดพ้นจากอันตราย

หลังจากนั้น สถานการณ์ก็เลวร้ายลงไปอีก เมื่อคู่กรณีซึ่งเป็นหญิงสาวอีกคนในทริป ได้วิ่งเข้ามาทำร้ายเธออย่างไม่ทันตั้งตัว ด้วยการถีบเข้าที่ใบหน้า ตามด้วยการตบและขยุมหน้า พร้อมทั้งด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยเฉพาะคำว่า ‘อิกะหรี่’

ผู้เสียหายเล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเพื่อนร่วมทริปที่เพิ่งมารู้จักกันในทริปนี้เป็นครั้งแรก ไม่มีเรื่องบาดหมางหรือความขัดแย้งกันมาก่อน เหตุผลที่คู่กรณีอ้างในการทำร้ายคือ ความหึงหวง โดยกล่าวหาว่าเธอไปมองหน้าแฟนของเขา ซึ่งในทริปดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 6 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน (รวมผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุ) การที่ผู้เสียหายซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับแฟนของผู้ก่อเหตุจะต้องมีการมองหน้าหรือพูดคุยกันบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติของการเดินทางร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกคนต้องอยู่ร่วมกัน กินด้วยกัน และนอนด้วยกัน มาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2568

แต่เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายได้เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 06:30 น. สร้างความประหลาดใจและงุนงงให้กับผู้เสียหายเป็นอย่างมาก

ภายหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ พร้อมทั้งเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี เธอยืนยันอย่างหนักแน่น 100% ว่า ไม่มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวหรือสองแง่สองง่ามกับแฟนของผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด และเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากพยานบุคคลอื่นๆ ที่ร่วมทริปด้วยกันทุกคน ทั้งผู้ร่วมทริป, เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ดูแลพื้นที่, สตาร์ฟของทัวร์ และลูกหาบที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์

นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังระบุด้วยว่า อดีตแฟน (หรือแฟน) ของผู้ก่อเหตุไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายครั้งนี้แต่อย่างใด และไม่มีเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากที่ได้เล่าไปเกิดขึ้น

โพสต์ดังกล่าวได้สร้างความตกใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง หลายคนแสดงความเป็นห่วงผู้เสียหาย และเห็นด้วยกับการที่ผู้ประกอบการทัวร์ควรมีมาตรการในการคัดกรองลูกทัวร์ หรือมีข้อกำหนดและบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อผู้อื่น เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทุกคน

ผู้เสียหายกล่าวทิ้งท้ายด้วยความรู้สึก ‘งง’ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษตามกฎหมาย และหวังว่าเรื่องราวของเธอจะเป็นอุทาหรณ์และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการทัวร์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางทุกคนในอนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *