วิสุทธิ์ ปัดรัฐบาล-เพื่อไทย ไม่เกี่ยวปมชั้น 14 ยัน ‘ทักษิณ’ ไม่แทรกแซง ชี้ 13 พ.ค. ถกงบปี 69 สำคัญกว่า
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธข่าวรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเข้าไปเกี่ยวข้องหรือถูกกดดันจากมติแพทยสภาที่ลงโทษแพทย์ 3 คน กรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันนายทักษิณไม่เคยแทรกแซงการทำงานของรัฐบาล พร้อมเผยการประชุม สส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ จะเน้นหารือวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มากกว่าประเด็นอื่น
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงประเด็นร้อนกรณีแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีการดูแลรักษานายทักษิณ ชินวัตร ที่พักรักษาตัว ณ ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลกระทบหรือแรงกดดันต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่
นายวิสุทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ประเด็นดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน และไม่ได้เข้ามาควบคุมการบริหารประเทศแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายวิสุทธิ์ยอมรับว่า ในบางเรื่องรัฐบาลหรือรัฐมนตรีบางท่านอาจมีการปรึกษาหารือกับนายทักษิณในฐานะอดีตผู้มีประสบการณ์ โดยเฉพาะในประเด็นที่เคยดำเนินการสำเร็จมาแล้วในอดีต เช่น นโยบายปราบปรามยาเสพติด หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาสู่โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ แต่การปรึกษาหารือเหล่านี้เป็นการขอคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่การเข้ามากำกับดูแลหรือแทรกแซงการทำงานของรัฐบาล
ประธานวิปรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำอย่างหนักแน่นว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นประธานวิปรัฐบาล ยังไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อสั่งการหรือชี้นำให้ดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการเฉพาะแต่อย่างใด จึงขอยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงเกิดขึ้น
สำหรับความเห็นที่มีการระบุว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริงนั้น นายวิสุทธิ์ ชี้แจงว่า จากการรับฟัง นายทักษิณยืนยันว่าป่วย แต่รายละเอียดของอาการป่วยและการพิสูจน์ยังคงอยู่ในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าประเด็นเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ต่อการทำงานของรัฐบาล
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงวาระการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ว่าจะมีการหยิบยกประเด็นเรื่องนายทักษิณมาหารือหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวย้ำว่า เรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับพรรคเพื่อไทย ถึงแม้นายทักษิณจะเป็นอดีตหัวหน้าพรรคหรืออดีตนายกรัฐมนตรีก็ตาม หากมีประเด็นที่รัฐมนตรีจะไปพบปะปรึกษาหารือ ก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ปรึกษาเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่เรื่องของพรรค
นายวิสุทธิ์ กล่าวเปิดเผยถึงวาระหลักในการประชุม สส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ว่า จะเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมและพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งมีกำหนดเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในช่วงวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้
ที่ประชุมจะมีการหารือกันในหมู่ สส.พรรคเพื่อไทยว่าการพิจารณางบประมาณจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลาได้หรือไม่ รวมถึงการพิจารณาดูรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของงบประมาณ ว่าส่วนใดควรได้รับการสนับสนุน หรือส่วนใดที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ควรจะต้องมีการพิจารณาตัดออก
ประธานวิปรัฐบาลเน้นย้ำว่า การตรวจสอบและพิจารณาตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายค้านเพียงฝ่ายเดียว รัฐบาลเองก็มีส่วนสำคัญและต้องร่วมกันทำหน้าที่นี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ นั้น มีสัดส่วนของกรรมาธิการจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเท่ากัน ดังนั้น หากงบประมาณส่วนใดไม่เกิดประโยชน์ หรืออาจก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต ก็เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการทุกคนที่ต้องร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบและช่วยกันตัดออก
นายวิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทยจะให้ความสำคัญกับการศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 เพื่อให้แน่ใจว่าทุกรายการงบประมาณจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากกว่าประเด็นอื่นๆ ในขณะนี้