สงขลา – จากกรณีเหตุการณ์เครื่องบิน DHC 6-400 Twin Otter ของกองบินตำรวจ ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณทะเลใกล้กับสนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตรวม 6 นาย หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ตำแหน่ง ช่างเครื่อง

ความคืบหน้าล่าสุดในวันที่ 28 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า หลังจากการเคลื่อนย้ายร่างของ ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา มาถึงวัดปะโอ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ได้มีพิธีการต่างๆ ตามหลักศาสนา โดยมี นางเสาวพรรณ ชูรังสฤษฎิ์ ภริยาของ พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสงขลา ได้เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากสมาคมแม่บ้านตำรวจ จำนวน 20,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจและช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย

ในโอกาสนี้ น.ส.สุพัตรา หรือ อุ้ย โชตมณี อายุ 29 ปี อาชีพข้าราชการครู ซึ่งเป็นภรรยาของ ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นที่มีการร้องเรียนและเผยแพร่ข้อมูลในแอปพลิเคชัน TikTok โดยมีบุคคลบางรายอ้างตัวว่าเป็นญาติผู้ให้การดูแล ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มาตั้งแต่ก่อนเข้าสอบตำรวจ ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ การตัดชุดเข้าทำงาน จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

น.ส.สุพัตรา กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคงว่า ตนเองเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและคบหากับอ๊อฟ (ชื่อเล่นของ ส.ต.ต.จิราวัฒน์) มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จนกระทั่งแต่งงานและอยู่ด้วยกันมาเป็นระยะเวลา 17 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนเองและครอบครัวใกล้ชิดและดูแลอ๊อฟมาโดยตลอด

เธอยังชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านการศึกษาและค่าใช้จ่ายในช่วงที่อ๊อฟยังเรียนอยู่ว่า สมัยเรียนวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ คุณครูให้การสนับสนุนช่วยเหลือหลายๆ อย่าง เพราะอ๊อฟเป็นคนเรียนดี ต่อมาเมื่อเข้าเรียนชั้น ปวส. ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น คุณแม่ของตนเองได้ให้ความช่วยเหลือ มอบทุนการศึกษาให้เสมอมา จนกระทั่งอ๊อฟทำงานหาเงินเองได้ ก็ได้นำเงินมาคืนคุณแม่ในภายหลัง นอกจากนี้ อ๊อฟยังได้ทำงานเสริม ทั้งเปิดรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและเป็นช่างไฟฟ้า ช่างซ่อมแอร์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งที่หามาได้ อ๊อฟก็นำมาดูแลครอบครัวของตนเองด้วย

สำหรับประเด็นเรื่องครอบครัวของ ส.ต.ต.จิราวัฒน์ น.ส.สุพัตรา ยืนยันว่า พ่อกับแม่แท้ๆ ของอ๊อฟได้เสียชีวิตไปนานแล้ว คุณแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก ส่วนคุณพ่อแท้ๆ ก็ไม่พบรายชื่อในทะเบียนราษฎร์ ปัจจุบันพ่อแม่แท้ๆ เสียชีวิตหมดแล้ว ส่วนบุคคลที่อ้างว่าเป็นพ่อของอ๊อฟนั้น เป็นเพียงพ่อเลี้ยงเท่านั้น ซึ่งอ๊อฟเคยไปมาหาสู่ด้วยเพียง 2 ครั้ง และไม่เคยมีการส่งเสียเลี้ยงดูแต่อย่างใด

ในส่วนของประเด็นเรื่องการตัดชุด น.ส.สุพัตรา ชี้แจงว่า หลังสอบติดตำรวจ อ๊อฟได้เจอกับพี่ชายต่างมารดา และพูดติดตลกเชิงหยอกล้อว่ายังไม่มีเงินตัดชุด พี่ชายจึงช่วยเหลือสนับสนุนค่าตัดชุดให้ 2 ชุด คือชุดสีกากีและชุดขาวเท่านั้น ส่วนชุดนักบินและชุดอื่นๆ ที่จำเป็นในการทำงาน ทั้งหมด ตนเองเป็นคนจัดการและดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด

น.ส.สุพัตรา กล่าวทิ้งท้ายว่า อ๊อฟเป็นคนที่รักครอบครัวมาก ทุกๆ เช้าก่อนออกไปทำงาน อ๊อฟจะทักแชทไลน์มาพูดคุยและรายงานความเคลื่อนไหวให้ทราบเสมอ ซึ่งเธอยังได้แสดงภาพและคลิปวิดีโอการแชทไลน์ในเช้าวันเกิดเหตุเครื่องบินตกให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย เพื่อยืนยันถึงความผูกพันและสถานการณ์ล่าสุดก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น