กรมชลประทานออกมาแถลงการณ์ชี้แจงกรณีกลุ่ม “คนรักษ์แม่น้ำสะแกกรัง” คัดค้านโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง โดยย้ำว่าการพัฒนาลุ่มน้ำแห่งนี้จำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำและรักษาสิ่งแวดล้อม

จากข้อมูลของกรมชลประทาน พื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังยังไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนที่เพียงพอ ส่งผลให้เกษตรกรในอำเภอเมืองอุทัยธานีต้องพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก ขณะที่ผู้เลี้ยงปลากระชังกว่า 1,000 กระชังก็ประสบปัญหาซ้ำซาก ส่วนในฤดูฝนมักเกิดน้ำท่วมขังในอำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากพื้นที่ตอนบนเป็นที่ลาดชัน

นอกจากนี้ การขยายตัวของชุมชนเมืองยังทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ โดยเฉพาะปัญหาน้ำเน่าเสียในแม่น้ำสะแกกรังตอนล่าง เนื่องจากขาดแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อเจือจางและผลักดันน้ำเสีย

กรมชลประทานระบุว่าได้ศึกษาปัญหาอย่างรอบด้าน โดยนำผลการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติมาประกอบการวางแผน พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน โครงการนี้สอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ 20 ปี ครอบคลุม 3 ด้านหลัก ได้แก่ การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค ความมั่นคงของน้ำเพื่อการผลิต และการจัดการน้ำท่วม

สำหรับมาตรการแก้ไข กรมชลประทานเสนอ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ มาตรการไม่ใช้สิ่งก่อสร้างด้วยการบริหารจัดการระบบชลประทานเดิม และมาตรการใช้สิ่งก่อสร้างซึ่งรวมถึงการสร้างประตูระบายน้ำพร้อมปรับปรุงคลองธรรมชาติ

ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยคณะกรรมการผู้ชำนาญการ หากได้รับการอนุมัติ จะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานีและใกล้เคียง