แฉขบวนการฟอกเงินเว็บพนัน 800 ล้าน โยงอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง-พระมหา และนายหน้าสาวคนสนิท
นครปฐม/กรุงเทพฯ – รายงานความคืบหน้าคดีขบวนการฟอกเงินที่เกี่ยวโยงกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ขนาดใหญ่ “LAGALAXY911” เปิดเผยเส้นทางการเงินสุดซับซ้อน ที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลใกล้ชิดกับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยพบว่ามีการใช้พระลูกวัดเป็นผู้ดำเนินการโอนเงินจำนวนมหาศาลให้กับนายหน้าสาวคนสนิท ซึ่งเงินส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้เติมเครดิตเว็บพนัน และบางส่วนผ่านการฟอกเงินกว่า 800 ล้านบาท ผ่านนิติบุคคลถึง 3 แห่ง
คดีนี้เริ่มต้นจากการที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ทลายเครือข่ายเว็บพนัน “LAGALAXY911” ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ บช.สอท. และคณะ โดยสามารถขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้ 24 ราย และเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุดในหลายจังหวัด
ในการจับกุมครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ร่วมเครือข่าย 12 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.อรัญญาวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารและมีบทบาทสำคัญในการดูแลเส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านดัง ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดไร่ขิง นอกจากนี้ ยังมีการขยายผลจับกุมสมาชิกแก๊งรถซิ่ง “นารากะ” อีก 2 ราย ที่ทำหน้าที่ยิงแอดโฆษณาและบริหารการเงินของเว็บ
จากการสืบสวนเชิงลึก ตำรวจพบว่าเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าวได้จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลในรูปแบบบริษัทถึง 3 แห่ง เพื่อใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน โดยบริษัทเหล่านี้ตั้งอยู่ในชุมชนแออัด และมีกรรมการบริษัทเป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในชุมชน ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจถูกหลอกนำข้อมูลส่วนตัวมาใช้ในการจดทะเบียน
การตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของทั้ง 3 บริษัท พบการทำธุรกรรมจำนวนมหาศาลอย่างน่าตกใจ:
- บริษัท ก. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 250 ล้านบาท ในช่วง เม.ย.-ก.ค. 2567
- บริษัท ข. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาท ในช่วง เม.ย.-ก.ค. 2567
- บริษัท ค. มีเงินหมุนเวียนประมาณ 362 ล้านบาท ในช่วง พ.ค.-ก.ย. 2567
รวมยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของทั้ง 3 บริษัท ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา (ตามช่วงเวลาที่ตรวจสอบ) สูงถึงกว่า 800 ล้านบาท
นอกจากบทบาทนายหน้าเว็บพนัน น.ส.อรัญญาวรรณ ยังทำหน้าที่เป็นบัญชีรับผลประโยชน์ลำดับที่ 3 จากเครือข่าย โดยได้รับโอนเงินจากนิติบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นบัญชีพักเงิน (บัญชีแถวที่ 2) ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 2567 ถึง 29 ก.ค. 2567 รวม 37 ครั้ง เป็นเงินกว่า 48.7 ล้านบาท ก่อนจะโอนเงินกลับไปยังบัญชีนิติบุคคลดังกล่าว 85 ครั้ง เป็นเงินกว่า 97 ล้านบาท และโอนเข้าบัญชีตนเองอีก 7 ครั้ง กว่า 4.8 แสนบาท นอกจากนี้ยังรับโอนเงินจากนิติบุคคลอีก 2 แห่ง รวมกว่า 48.5 ล้านบาท
ประเด็นที่น่าสนใจและเป็นที่มาของข่าวพาดหัวคือ ความเชื่อมโยงระหว่าง น.ส.อรัญญาวรรณ กับ นายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง น.ส.อรัญญาวรรณ ให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับอดีตเจ้าอาวาสมาตั้งแต่สมัยเรียนที่วัดไร่ขิง เคยยืมเงิน 40 ล้านบาทไปลงทุนตั้งแต่ปี 2564 และยังคงปรึกษาหารือกันตลอดมาผ่านการวิดีโอคอล เจ้าหน้าที่ยังพบคลิปวิดีโอส่วนตัวของ น.ส.อรัญญาวรรณ ในโทรศัพท์ของอดีตเจ้าอาวาสด้วย
ข้อมูลการสืบสวนเส้นทางการเงินยังพบว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้ให้ พระมหารูปหนึ่ง (ภายหลังทราบชื่อคือ นายเอกพจน์ ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นพระลูกวัดไร่ขิง เป็นผู้ดำเนินการนำเงินสดไปฝากที่ตู้รับฝากเงินอัตโนมัติของธนาคารไทยพาณิชย์ตามสาขาต่างๆ หลายแห่ง ทั้งในนครปฐม กรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ สาขาวัดไร่ขิง, เซียร์รังสิต, เซ็นทรัลศาลายา, ลำลูกกา, เดอะมอลล์บางแค, อ้อมใหญ่ เพื่อเข้าบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ หลายครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 31,400,000 บาท
การกระทำของพระมหารูปนี้ มีลักษณะต้องสงสัยว่าเป็นการฝากหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินเพื่อซุกซ่อน ปกปิด หรืออำพรางแหล่งที่มา ซึ่งไม่สัมพันธ์กับรายได้ปกติ และน่าเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้จากการกระทำความผิดที่เกี่ยวโยงกับเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ พระมหา หรือ นายเอกพจน์ ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์, สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน โดยหมายจับออกเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ซึ่งปัจจุบัน พระมหาเอกพจน์ ได้ทำการสึกและหลบหนีการจับกุมไปแล้วตั้งแต่ช่วงที่ น.ส.อรัญญาวรรณ ถูกจับกุมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา