นครปฐม – ข่าวใหญ่สั่นสะเทือนวงการผ้าเหลือง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หรือ กองปราบฯ เข้าจับกุมอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวงชื่อดัง จ.นครปฐม หลังพบหลักฐานการยักยอกเงินวัดจำนวนมหาศาลกว่า 300 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการเล่นพนันออนไลน์ประเภทบาคาร่า และนำไปให้หญิงคนสนิทกู้ยืม

พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการกองบังคับการปราบปราม แถลงผลการจับกุมเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการปลอมตัวแฝงตัวเข้าไปในพื้นที่วัดไร่ขิงเป็นเวลานานเกือบ 7 เดือน ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พระธรรมวัชรานุวัตร หรือที่รู้จักในนาม “เจ้าคุณแย้ม” เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้มีการยักยอกเงินของวัดเป็นจำนวนมาก

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีของวัดไปยังบัญชีส่วนตัวภายนอกวัดรวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท และพบความเชื่อมโยงของเงินดังกล่าวกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ประเภทบาคาร่า

พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ พระธรรมวัชรานุวัตร ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ทั้งนี้ ตามกฎหมายไทย เจ้าอาวาสถือเป็นเจ้าพนักงาน

ภายหลังจากศาลอนุมัติหมายจับในวันที่ 15 พฤษภาคม อดีตเจ้าอาวาสได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ที่ศูนย์การสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในกรุงเทพฯ และให้การเบื้องต้น ก่อนที่ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ท่านตัดสินใจลาสิกขา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวอดีตเจ้าอาวาสไว้เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมตลอดคืน

ด้าน พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยว่า เดิมทีการเข้าจับกุมมีกำหนดในวันที่ 16 พฤษภาคม แต่ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวก่อน เนื่องจากทราบว่าตนเองถูกออกหมายจับ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี เพราะการสอบสวนมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนชัดเจน

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยืนยันว่า การสอบสวนจะขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดีนี้ และจะประสานงานกับทางมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาอีกรายตามหมายจับ คือ นางสาวอัญญาวรรณ (ขอสงวนนามสกุลจริง) ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ โดยจับกุมตัวได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และนำตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามในกรุงเทพฯ

นางสาวอัญญาวรรณ ให้การรับสารภาพว่า มีส่วนสนับสนุนการกระทำความผิด และยอมรับว่ารู้จักกับอดีตเจ้าอาวาสมาตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนวัดไร่ขิง ด้วยความเคารพและได้รับความเมตตาจากท่าน จึงเคยขอเงินท่านกู้ยืมไปลงทุนจำนวน 40 ล้านบาท เมื่อปี 2564 และยังคงติดต่อกับอดีตเจ้าอาวาสผ่านการวิดีโอคอลเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องต่างๆ มาโดยตลอด

การสอบสวนยังพบข้อมูลที่น่าตกใจเพิ่มเติม เช่น คลิปเสียงการสนทนาระหว่างอดีตเจ้าอาวาสและนางสาวอัญญาวรรณ เกี่ยวกับการทวงหนี้เงินจำนวน 500,000 บาท ซึ่งมีการพูดถึงถึง 4 ครั้ง นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานเป็นวิดีโอของหญิงสาวรายนี้ขณะกำลังอาบน้ำในโทรศัพท์มือถือของอดีตเจ้าอาวาสอีกด้วย