โหดกลางวันไหลคลอง 4! กลุ่มวัยรุ่นรุมชกต่อยชายหนุ่มสลบคาที่ หนึ่งในผู้ก่อเหตุขาไม่ดีร่วมใช้ไม้เท้าฟาด ชาวบ้านจี้ตำรวจเร่งล่าตัว
ปทุมธานี – เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่น่าตกใจกลางงานประเพณีวันไหลคลอง 4 จังหวัดปทุมธานี เมื่อปรากฏคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นภาพของกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวนหนึ่ง กำลังรุมทำร้ายร่างกายชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างรุนแรง จนหมดสติล้มลง
คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง “Survive – สายไหมต้องรอด” ซึ่งเป็นเพจที่มักนำเสนอเรื่องราวความเดือดร้อนและขอความช่วยเหลือจากประชาชน โดยเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นอย่างอุกอาจต่อหน้าผู้คนจำนวนมากที่มาร่วมงานวันไหล
ในคลิปจะเห็นภาพของกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 4-5 คน กำลังรุมเข้าทำร้ายชายหนุ่มรายหนึ่งด้วยการชกต่อยไม่ยั้ง แม้ผู้ที่ถูกทำร้ายจะพยายามป้องกันตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงของคนกลุ่มใหญ่ได้ ที่น่าตกใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ คือในกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น มีชายคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในสภาพบาดเจ็บที่ขา ต้องใช้ไม้เท้าช่วยในการพยุงตัว แต่กลับใช้ไม้เท้าซึ่งควรจะเป็นอุปกรณ์ช่วยพยุง พลิกมาเป็นอาวุธร่วมฟาดเข้าที่ตัวของชายผู้เคราะห์ร้ายด้วย สร้างความตกใจให้กับผู้ที่ได้ชมคลิปเป็นอย่างมาก
จากความรุนแรงของการถูกรุมทำร้าย ทำให้ชายผู้เคราะห์ร้ายหมดสติไปในทันที และล้มลงกระแทกเข้ากับรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่ในบริเวณใกล้เคียง สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของผู้อื่นอีกด้วย
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากต่างส่งเสียงร้องห้ามปราม และพยายามตะโกนเรียกหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ เพื่อให้เข้ามาระงับเหตุการณ์ความวุ่นวายและช่วยเหลือชายที่ถูกทำร้าย แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังคงไม่หยุดการกระทำที่โหดเหี้ยมลงได้ในทันที
หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง ก็มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนของกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เร่งติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถือเป็นการก่อเหตุอาชญากรรมที่รุนแรงและไม่เกรงกลัวกฎหมาย ท่ามกลางงานประเพณีที่มีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ประชาชนผู้ที่ได้ชมคลิปและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างหวังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถระบุตัวตนและจับกุมผู้กระทำผิดกลุ่มนี้ได้ในไม่ช้า เพื่อคืนความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยให้กับสังคม และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต โดยเฉพาะในงานเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ ที่มีผู้คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งควรจะเป็นไปเพื่อความสนุกสนานและความสามัคคี ไม่ใช่เวทีสำหรับการใช้ความรุนแรง.