กรุงเทพฯ – จากกรณีที่แม่ปูนาฟ้าใส หรือ แม่บีม ได้รับความสนใจอย่างมากหลังปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง เพื่อทวงถามหนี้จากบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง จนทำให้ยอดขายสินค้าของเธอพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดกลับมีเรื่องราวอีกด้านปรากฏขึ้น เมื่อแม่ค้าอ่องมันปูรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขอความเป็นธรรม หลังอ้างว่าถูกแม่ปูนาฟ้าใสค้างชำระค่าสินค้าเป็นจำนวนเงินกว่า 455,845 บาท

คุณนา เจ้าของธุรกิจอ่องมันปู ซึ่งเป็นผู้โพสต์ เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ว่า ตนเองรู้จักและทำธุรกิจร่วมกับแม่ปูนาฟ้าใสมานานถึง 7-8 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การค้าขายเป็นไปอย่างราบรื่น มีการชำระเงินเป็นล็อตต่อล็อต ไม่เคยมีปัญหา

คุณนากล่าวว่า ก่อนที่แม่ปูนาฟ้าใสจะไปออกรายการดัง มียอดค้างชำระเก่าอยู่ประมาณ 80,000 บาท ซึ่งทางแม่บีมได้รับปากว่าจะเคลียร์ยอดหนี้เก่าให้หลังออกรายการแล้ว

หลังจากออกรายการเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ผลตอบรับดีมาก ยอดสั่งซื้ออ่องมันปูเข้ามามหาศาล แม่บีมมีการโอนเงินให้ 10,000 บาทในเช้าวันนั้น เพื่อให้ตนเองนำไปเป็นทุนผลิตสินค้า แต่การโอนเงินหลังจากนั้นทุกครั้ง มักจะไม่ใช่ยอดเต็มตามจำนวนสินค้าที่สั่ง และไม่ใช่การเคลียร์ยอดหนี้เก่าที่ค้างไว้ เป็นเพียงการโอนเงินเพื่อสั่งสินค้าล็อตใหม่เท่านั้น

แม้จะได้รับชำระเงินไม่ครบถ้วน แต่คุณนายังคงตัดสินใจส่งสินค้าให้แม่ปูนาฟ้าใสมาโดยตลอด ด้วยความที่ค้าขายร่วมกันมานานและมีความเข้าใจว่าอีกฝ่ายก็กำลังประสบปัญหาเรื่องหนี้สินเช่นกัน จึงมีความหวังว่าแม่บีมจะทยอยเคลียร์ยอดที่ค้างไว้ให้

สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงเมื่อแม่บีมขอให้คุณนาเร่งผลิตสินค้าล็อตใหญ่เพื่อนำไปลงงาน ‘ครัวคุณต๋อย’ ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 มิถุนายน 2567 คุณนาขอให้แม่บีมโอนเงินที่ค้างไว้ก่อน เพราะมียอดที่ตนเองส่งของไปแล้วเกือบ 200,000 บาท แต่แม่บีมกลับโอนมาให้เพียง 100,000 บาท และไม่มีการโอนอีกเลย ทำให้คุณนายอดติดลบ

เมื่อถึงกำหนดงานที่หาดใหญ่ แม่บีมจึงติดต่อกลับมา และเมื่อคุณนาทวงถามเรื่องการชำระเงินที่ค้างไว้ แม่บีมกลับอ้างว่า สินค้าล็อต 100,000 บาทนั้นขายไม่ได้เลย ของเสียทั้งหมด และจะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาโอนให้ ทั้งที่คุณนาไม่เคยเห็นสินค้าที่อ้างว่าเสียนั้นถูกตีกลับมา หรือได้รับหลักฐานภาพถ่ายใดๆ ทำให้เกิดการทะเลาะกันขึ้น

คุณนาระบุว่า ในวันที่มีปากเสียงกัน แม่บีมบอกว่าถ้ายอดค้างประมาณ 250,000 บาท (ยังไม่รวมค่าขนส่ง) หากคุณนาไม่ยอมทำของลงหาดใหญ่ในวันนั้น แม่บีมจะนำค่าเสียหายทั้งหมดจากงานครัวคุณต๋อยมาหักลบกับยอดหนี้ ทำให้คุณนายอมส่งของให้อีกครั้งในวันที่ 26 และ 28 มิถุนายน 2567 โดยได้รับโอนเงินมาเพียง 10,000 บาท และ 15,000 บาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นยอดสุดท้ายที่แม่บีมโอนให้ ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้อีกเลยตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2567

คุณนาพยายามติดต่อแม่บีมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 แม่บีมกลับมาพยายามติดต่อผ่านญาติของคุณนา เพื่อขอสินค้า เนื่องจากอ้างว่าสินค้าจากเจ้าใหม่ไม่มีคุณภาพ แต่ไม่ได้ติดต่อเพื่อเคลียร์หนี้ ทำให้คุณนาตัดสินใจไม่ติดต่อกลับ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา คุณนาตัดสินใจโทรศัพท์หาแม่บีมอีกครั้ง เพื่อขอเคลียร์ยอดหนี้เพียง 50,000 บาท เนื่องจากเดือดร้อนต้องการเงินมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สินที่ตนเองต้องแบกรับแทนแม่บีมในส่วนที่นำเงินไปหมุนให้คนงาน ซึ่งเป็นชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ

แม่บีมได้รับปากว่าจะหาเงินมาให้ แต่ต่อมากลับอ้างว่าไปทำธุรกิจบ่อปลา ยังไม่สามารถเบิกเงินส่วนกลางได้ และจะทยอยโอนให้ ก่อนจะโอนมาเพียง 10,000 บาท แล้วก็เงียบหายไปอีกครั้ง พร้อมบอกว่าขอหนีไปใช้ชีวิตตามธรรมชาติ

คุณนารู้สึกเสียใจและผิดหวังอย่างยิ่งที่แม่ปูนาฟ้าใสทำเช่นนี้ ทั้งที่ตนเองทำธุรกิจด้วยความจริงใจและซัพพอร์ตมาโดยตลอดจนอีกฝ่ายมีชื่อเสียง แต่กลับถูกทอดทิ้งให้แบกรับภาระหนี้สินแทน ทำให้ชีวิตตกต่ำ รถยนต์ต้องถูกยึด

การออกมาโพสต์ครั้งนี้ คุณนาต้องการเพียงความเป็นธรรม และอยากให้แม่ปูนาฟ้าใสออกมาแสดงความรับผิดชอบและเคลียร์ยอดหนี้ที่ค้างอยู่จำนวน 455,845 บาท แม้จะไม่สามารถชำระได้ทั้งหมดในคราวเดียว แต่ก็ขอให้เข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางออก เพื่อให้ตนเองได้มีโอกาสกลับมาตั้งหลักในชีวิตได้อีกครั้ง