แรงกระเพื่อมใน พปชร. อุตตม-สนธิรัตน์ ลาออก พรรคพลังประชารัฐ ขาดมือดีเศรษฐกิจ

แม้จะไม่ตกเป็นข่าวครึกโครมเท่ากรณี ส.ส. รายอื่นที่ย้ายพรรคไปก่อนหน้านี้ แต่การตัดสินใจครั้งล่าสุดของ นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่หลายฝ่ายมองว่า อาจส่งผลสะเทือนต่อทิศทางและอนาคตของพรรค รวมถึงบทบาทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

มีรายงานว่า การลาออกครั้งนี้เป็นไปในลักษณะที่ดี โดยทั้งสองคนได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร เพื่ออำลาเป็นการส่วนตัว ซึ่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้อวยพรให้ทั้งคู่โชคดี

นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ เป็นที่รู้จักในฐานะแกนนำกลุ่ม “4 กุมาร” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2563 สมาชิกกลุ่ม 4 กุมาร ได้แก่ นายอุตตม, นายสนธิรัตน์, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ได้ประกาศลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ โดยให้เหตุผลว่าได้ทำภารกิจสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จแล้ว ก่อนที่ต่อมา พล.อ.ประวิตร จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค

ในปี 2565 นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ได้จับมือกันตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ในเดือนมกราคม 2566 ทั้งสองคนในฐานะหัวหน้าและเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ได้ตัดสินใจลาออกและกลับมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง โดยมี พล.อ.ประวิตร ให้การต้อนรับด้วยตัวเอง

ก่อนการลาออกครั้งล่าสุดนี้ นายอุตตม ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและประธานกรรมการนโยบายพรรค ส่วนนายสนธิรัตน์ ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค ทั้งคู่ถือเป็นบุคคลสำคัญที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและนโยบาย ซึ่งเป็นจุดแข็งของพรรคพลังประชารัฐในช่วงที่ผ่านมา

ในมุมมองทางการเมือง การจากไปของ นายอุตตม และ นายสนธิรัตน์ แม้จะไม่มีความขัดแย้งรุนแรงเหมือนกรณี ส.ส. กลุ่มอื่นๆ ที่เคยแยกทางไปก่อนหน้านี้ แต่การที่พรรคต้องสูญเสียบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านนโยบายเศรษฐกิจไปพร้อมกันถึงสองคน ย่อมส่งผลกระทบต่อการทำงานด้านนโยบายและการวางแผนเพื่ออนาคตของพรรคอย่างแน่นอน

สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันยังคงมีความไม่แน่นอนสูง การลาออกของอดีตแกนนำกลุ่ม 4 กุมาร ที่วนกลับมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจลาออกไป อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนภายในพรรคพลังประชารัฐ และหลายฝ่ายเชื่อว่า อาจจะมี “แรงกระเพื่อม” หรือความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ตามมาอีกในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *