เปิด ‘อุทยานพระนาดูน’ แลนด์มาร์กใหม่ มหาสารคาม ผสานพุทธศิลป์-เทคโนโลยี ยกระดับ ‘พุทธมณฑลอีสาน’
จังหวัดมหาสารคาม ได้เปิดตัวพื้นที่ใหม่ล่าสุด ที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์การเยี่ยมชม ‘พุทธมณฑลอีสาน’ อย่าง ‘อุทยานพระนาดูน’ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างองค์พระบรมธาตุนาดูน แหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค โดยใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 35 ล้านบาท เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม การพักผ่อน และแลนด์มาร์กสำคัญแห่งใหม่
พิธีเปิด ‘อุทยานพระนาดูน’ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 โดยมีนายวิบูลย์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน อุทยานแห่งนี้ได้รับการออกแบบให้เป็น ‘สวนพุทธศิลป์’ กลางแจ้ง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์พุทธศิลป์ ‘พระพิมพ์นาดูน’ ซึ่งมีประวัติการค้นพบที่น่าทึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2522 ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ภายในอุทยาน มีการจำลอง ‘พระพิมพ์กรุพระบรมธาตุนาดูน’ ที่เคยขุดพบในอดีต ให้เป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ติดตั้งตามมุมต่างๆ รวม 23 พิมพ์ แต่ละจุดมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับพระพิมพ์นั้นๆ เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้ศึกษาและทำความเข้าใจในรายละเอียดของพุทธศิลป์สมัยทวารวดี
นอกจากนี้ อุทยานพระนาดูนยังผสานเทคโนโลยีเข้ากับการเรียนรู้ โดยนำเสนอเรื่องราวผ่านแอปพลิเคชัน ‘ไตรเทพศิลป์’ ผู้เยี่ยมชมสามารถสแกน QR Code ด้วยสมาร์ตโฟน เพื่อรับชมภาพและเรื่องราวตำนานที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ ทำให้การเรียนรู้เรื่องราวทางศาสนาและประวัติศาสตร์มีความน่าสนใจและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น
พื้นที่ภายในอุทยานยังได้รับการปรับปรุงให้เป็นสวนสวยงาม มีน้ำตก สวนไม้ดอกไม้ประดับ สวนหิน และการพ่นไอหมอก เพื่อสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นและน่าพักผ่อนหย่อนใจ มีร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านกาแฟ และถ้ำเบญจวิจิตร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
การพัฒนาอุทยานพระนาดูนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับพื้นที่โดยรอบพระบรมธาตุนาดูน ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของ ‘นครจัมปาศรี’ ศูนย์กลางความเจริญในสมัยทวารวดี การค้นพบครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2522 ณ เนินดินในที่นาของนายทองดี ปะวะภูตา ได้นำไปสู่การขุดพบพระกรุจำนวนมหาศาล รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุ 1 องค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในสถูปสำริด ภายในผอบซ้อน 3 ชั้น (สำริด เงิน ทองคำ) และหล่อเลี้ยงด้วยน้ำมันจันทน์ การค้นพบครั้งนั้นถือเป็นนิมิตหมายสำคัญของพุทธศาสนา
ต่อมา จังหวัดมหาสารคามได้สร้าง ‘พระบรมธาตุนาดูน’ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยประยุกต์รูปทรงจากสถูปที่ขุดพบและศิลปะทวารวดี เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอย่างถาวร และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้บนพระธาตุ
ปัจจุบัน พระบรมธาตุนาดูนได้รับการประกาศให้เป็น ‘พุทธมณฑลอีสาน’ เป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชน จัดกิจกรรมทางศาสนาและงานนมัสการเป็นประจำทุกปี การมี ‘อุทยานพระนาดูน’ เข้ามาเสริม จะช่วยเพิ่มมิติของการเรียนรู้ การพักผ่อน และความสวยงาม ทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบวงจรมากขึ้น เป็นการนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์และพุทธศิลป์ในรูปแบบที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยว และผู้สนใจ เข้าเยี่ยมชมสักการะพระบรมธาตุนาดูน และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ ‘อุทยานพระนาดูน’ เพื่อรับทั้งความรู้ ความสงบ และความเพลิดเพลินในคราวเดียวกัน