ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสหรัฐฯ โตแรง แตะ 6.4 หมื่นล้านเหรียญฯ ปี 2033 ชี้เทรนด์สุขภาพสัตว์เลี้ยงคือโอกาสทองผู้ส่งออกไทย
ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสหรัฐฯ โตแรง แตะ 6.4 หมื่นล้านเหรียญฯ ปี 2033 ชี้เทรนด์สุขภาพสัตว์เลี้ยงคือโอกาสทองผู้ส่งออกไทย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เผยผลสำรวจตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนด้วยกระแสความใส่ใจสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารเกรดพรีเมียมและอาหารฟังก์ชันเฉพาะ ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายการส่งออกสู่ตลาดที่มีศักยภาพสูงนี้
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงรายงานจาก น.ส.เกษสุรีย์ วิจารณกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ที่ได้สำรวจตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ พบว่า ตลาดนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 64.17 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2033 จาก 44.66 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 สะท้อนอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่แข็งแกร่งถึง 4.11% ในช่วงปี 2025-2033
ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตนี้ ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ซึ่งในปี 2024 มีครัวเรือนในสหรัฐฯ ถึง 66% หรือประมาณ 86.9 ล้านครัวเรือนที่เลี้ยงสัตว์ โดยแบ่งเป็นสุนัข 65.1 ล้านครัวเรือน และแมว 46.5 ล้านครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมและออร์แกนิกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยง
เจ้าของสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ มีแนวโน้มมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนสมาชิกในครอบครัว (PetHumanization) ทำให้ยินดีที่จะจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูงและอาหารเฉพาะทางที่ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพ เช่น การควบคุมน้ำหนัก การแพ้อาหาร หรือสูตรเฉพาะที่ปราศจากธัญพืช ผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิกหรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติกำลังได้รับความนิยมสูง
ความใส่ใจในโภชนาการและคุณค่าทางอาหารของผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเชิงฟังก์ชันและโภชนาการเฉพาะทางอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพเฉพาะทาง เช่น การดูแลข้อต่อ หรือการบำรุงขนและผิวหนัง กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพื่อยืดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง
น.ส.สุนันทากล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าวถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและฟังก์ชันเฉพาะที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและโภชนาการ ด้วยจุดแข็งของประเทศไทยในด้านวัตถุดิบธรรมชาติคุณภาพสูง เช่น ปลา ข้าว และสมุนไพร รวมถึงมาตรฐานการผลิตที่สามารถพัฒนาให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างความแตกต่างและสร้างจุดขายให้กับสินค้าผ่านการเน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติ คุณภาพ และความปลอดภัย
สำหรับช่องทางการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ นั้น ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญกับการใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซและโมเดล Direct-to-Consumer (DTC) เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการรับรองมาตรฐานระดับสากล การติดฉลากที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ รวมถึงการควบคุมความปลอดภัยของส่วนผสมอย่างเข้มงวด การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในตลาดเป้าหมาย ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างยั่งยืน