สถานการณ์โรคหัดในสหรัฐอเมริกายังคงน่ากังวลอย่างยิ่ง หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับการระบาดครั้งใหญ่มานานเกือบ 4 เดือน ล่าสุดมีรายงานยอดผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศพุ่งทะลุ 1,000 รายแล้ว โดยกระจายตัวอยู่ใน 11 รัฐ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรค ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขต้องออกโรงเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนอีกครั้ง

สำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ระบุว่า การระบาดของโรคหัดในสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญ โดยยอดผู้ป่วยรวมใน 11 รัฐที่มีการระบาดต่อเนื่องได้เกินกว่า 1,000 คนแล้ว

รัฐที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ รัฐเท็กซัส ซึ่งพบผู้ป่วยมากถึงอย่างน้อย 717 ราย และที่น่าเศร้าคือ มีรายงานเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาเสียชีวิตจากโรคหัดในรัฐนี้แล้ว 2 ราย โดยตรวจสอบพบในภายหลังว่า ทั้งคู่เป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดมาก่อน

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ยังเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเพิ่มเติมว่า มีผู้ใหญ่ 1 รายในรัฐนิวเม็กซิโกเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรคหัดเช่นกัน ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็เป็นผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเช่นกัน

CDC ได้กำหนดให้รัฐที่มีผู้ป่วยโรคหัดที่เกี่ยวข้องกับกรณีอื่นๆ ตั้งแต่ 3 รายขึ้นไป เป็นรัฐที่มีการระบาดต่อเนื่อง และปัจจุบันมีรัฐที่เข้าข่ายนี้รวม 11 รัฐ ได้แก่ รัฐเท็กซัส รัฐนิวเม็กซิโก รัฐโอคลาโฮมา รัฐแคนซัส รัฐอินเดียนา รัฐมิชิแกน รัฐมอนแทนา รัฐนอร์ทดาโคตา รัฐโอไฮโอ รัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐเทนเนสซี

ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคระบุว่า โรคหัด เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสในกลุ่มพารามิคโซไวรัส (Paramyxovirus) ผู้ป่วยมักมีอาการไข้สูง มีผื่นแดงขึ้นตามตัว และอาจมีอาการอื่นๆ เช่น ไอ น้ำมูกไหล ตาแดง สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายผ่านละอองฝอยในอากาศจากการไอ จาม หรือการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย

โรคหัดมักเกิดในเด็กเล็กและเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในเด็กทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วน แม้ว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคหัดที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้วก็ตาม ซึ่งสถานการณ์ในสหรัฐฯ ครั้งนี้ย้ำเตือนให้เห็นถึงความสำคัญของการได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนตามกำหนดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และป้องกันการระบาดในชุมชน

การระบาดของโรคหัดไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังพบการระบาดในหลายพื้นที่ทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา เช่น การระบาดในนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ที่มีผู้ป่วยจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิต หรือการระบาดในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ที่ส่งผลกระทบต่อเด็กเล็กเป็นวงกว้าง ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นที่ทั่วโลกต้องให้ความสำคัญกับการให้วัคซีนป้องกันโรคหัดอย่างครอบคลุม.