เหลือเชื่อ! หมอไต้หวันลดน้ำหนัก 10 กก. ด้วย ‘พิซซ่าและมะเขือเทศ’ เผยเคล็ดลับอยู่ที่สารสำคัญ
ไต้หวัน – เรื่องราวการลดน้ำหนักที่ฟังดูเหลือเชื่อ กำลังเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ เมื่อผู้อำนวยการแผนกพันธุศาสตร์และการปรับปรุงพันธุ์ จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในไต้หวัน ได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์ส่วนตัวที่สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัม โดยไม่ต้องอดอาหารอย่างที่คิด
ดร. จางเจียหมิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แชร์เรื่องราวของตนเองผ่านทางเฟซบุ๊ก เล่าว่าในช่วงที่เขาศึกษาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีนิสัยการรับประทานอาหารกลางวันที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ การทานมะเขือเทศคู่กับพิซซ่าเป็นประจำทุกวัน และสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดคือ น้ำหนักของเขากลับลดลงไปได้มากถึง 10 กิโลกรัม
ดร. จางเจียหมิง อธิบายว่า แม้พิซซ่าจะถูกมองว่าเป็นอาหารที่ทำให้อ้วน แต่กุญแจสำคัญที่ทำให้เขาสามารถลดน้ำหนักได้ในขณะที่ทานพิซซ่าทุกวันนั้น ไม่ได้อยู่ที่พิซซ่า แต่อยู่ที่ ‘มะเขือเทศ’ ที่ทานคู่กัน โดยเฉพาะสาร ‘ไลโคปีน’ (Lycopene) ที่อุดมอยู่ในมะเขือเทศ
ในมุมมองของ ดร. จางเจียหมิง เขาชี้ให้เห็นว่า ผู้คนในยุคปัจจุบันต้องเผชิญกับความเครียดและความกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งการทำงาน การนอนดึก การรับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยครั้ง และการใช้ชีวิตที่ติดอยู่กับโซเชียลมีเดียมากเกินไป พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดการสะสมของ ‘อนุมูลอิสระ’ ในร่างกายจำนวนมาก โมเลกุลที่ไม่ดีเหล่านี้จะเข้าโจมตีเซลล์ในร่างกายและทำลายดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแก่ก่อนวัย การอักเสบที่เพิ่มขึ้น และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ
นี่คือจุดที่มะเขือเทศเข้ามามีบทบาทสำคัญ ดร. จางเจียหมิง เปรียบเปรยว่า ไลโคปีนในมะเขือเทศนั้นเปรียบเสมือน ‘เสื้อเกราะกันกระสุน’ สำหรับเซลล์ในร่างกาย ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง สามารถจับและกำจัดอนุมูลอิสระเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงที่เซลล์จะถูกทำลายได้เป็นอย่างดี
นอกจากฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระแล้ว การศึกษาหลายชิ้นยังพบว่า ไลโคปีนสามารถส่งผลต่อการแสดงออกของยีนในร่างกาย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และอาจชะลอการพัฒนาของเนื้องอกบางชนิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นประโยชน์ของไลโคปีนในการลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม และมะเร็งช่องปาก
ดร. จางเจียหมิง ย้ำว่า การเรียกมะเขือเทศว่าเป็น ‘กำแพงป้องกันมะเร็งตามธรรมชาติ’ จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงไปนัก และประโยชน์ของมะเขือเทศไม่ได้หยุดอยู่แค่การป้องกันมะเร็งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดไขมันในร่างกายอีกด้วย
โดยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ มะเขือเทศช่วยให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการประมวลผลทั้งน้ำตาลและไขมันที่เรารับประทานเข้าไปได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งกลไกนี้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการอักเสบภายในอวัยวะต่างๆ และลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ ‘ผลลัพธ์การลดน้ำหนักแบบก้าวกระโดด’ ที่เห็นผลในระยะเวลาอันสั้น แต่เป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงให้กับร่างกาย ช่วยรักษารูปร่างและสุขภาพที่ดีในระยะยาวนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักเป็นเรื่องส่วนบุคคลและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การรับประทานอาหารที่สมดุลและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ยังคงเป็นหลักการสำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก การเพิ่มมะเขือเทศในมื้ออาหารอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสุขภาพได้ แต่หากต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหรือแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล