อิสตันบูล, ตุรกี – ความเคลื่อนไหวสำคัญในการหาทางยุติความขัดแย้งในยูเครนกำลังเป็นที่จับตา เมื่อมีรายงานว่า การหารือเพื่อยุติความขัดแย้งตามข้อเสนอของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจเกิดขึ้นที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในไม่ช้านี้

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังคงซับซ้อน เนื่องจากในคณะผู้แทนรัสเซียที่ระบุว่าจะเข้าร่วมการเจรจา ซึ่งนำโดย นายวลาดิมีร์ เมดินสกี ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซีย กลับไม่มีชื่อของนายปูตินรวมอยู่ด้วย

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน หลังจากที่นายปูตินเรียกร้องให้มีการพูดคุยกันโดยตรงที่ตุรกี โดยนายเซเลนสกีระบุว่า เขาพร้อมที่จะเดินทางไปยังนครอิสตันบูลเพื่อพูดคุยกับนายปูตินเป็นการส่วนตัว และจะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นจริง

แต่เงื่อนไขสำคัญที่ผู้นำยูเครนย้ำคือ การหารือกับรัสเซียจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อนายปูตินเข้าร่วมด้วยตนเองเท่านั้น โดยนายเซเลนสกีกล่าวว่า “ผมจะรอดูว่าใครจะมาจากฝั่งรัสเซียและจะตัดสินใจว่าก้าวต่อไปของยูเครนควรเป็นอย่างไร จากที่เห็นสัญญาณของพวกเขาที่สื่อรายงานไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่”

นอกจากนี้ มีรายงานว่านายเซเลนสกีมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงอังการาในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อเข้าพบกับ ประธานาธิบดีเรเจป ไตย์ยิป เอร์โดอัน ผู้นำตุรกี ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งนี้

ในส่วนของสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่เข้าร่วมการหารือระหว่างรัสเซียกับยูเครนนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยแสดงความจำนงว่าจะเข้าร่วมหากนายปูตินร่วมโต๊ะเจรจาด้วย

ย้อนกลับไปดูประวัติการพบปะโดยตรงระหว่างนายปูตินและนายเซเลนสกี พบว่าทั้งสองไม่ได้พบกันแบบตัวต่อตัวตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2562 หรือกว่า 6 ปีที่แล้ว ส่วนการเจรจาระหว่างตัวแทนของทั้งสองฝ่ายที่จัดขึ้นในนครอิสตันบูลครั้งล่าสุด คือเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาไม่นานหลังจากที่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบในยูเครน

ในขณะเดียวกัน ก็มีการประชุมคู่ขนานที่สำคัญในภูมิภาคเดียวกัน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) มีกำหนดพบปะกันที่เมืองอันทัลยา ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งอีกแห่งหนึ่งของตุรกี การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำนาโตในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะมีการกำหนดแนวทางด้านความมั่นคงของยุโรปในอนาคต

การจับตาไปยังนครอิสตันบูลและอังการาจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อดูว่าความพยายามในการหาทางออกทางการทูตสำหรับสงครามในยูเครนจะมีความคืบหน้าไปในทิศทางใด โดยเฉพาะประเด็นเงื่อนไขการเข้าร่วมเจรจาโดยตรงของผู้นำทั้งสองประเทศ