รายงานจากสื่อต่างประเทศเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เปิดเผยถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำหญิงแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ชนวนสำคัญที่จุดประกายเหตุการณ์นี้คือ การที่เมนูอาหาร ‘เต้าหู้’ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักโทษจำนวนมาก ได้ถูกถอดออกไปจากรายการอาหารประจำวัน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เรือนจำหญิงอีสต์วูด พาร์ค (HMP Eastwood Park) ในเมืองกลอสเตอร์เชอร์ (Gloucestershire) ภายหลังจากที่การเสิร์ฟเมนูเต้าหู้ได้หยุดลงอย่างกะทันหัน รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ได้นำไปสู่ความไม่พอใจในหมู่นักโทษประมาณ 440 คนอย่างรวดเร็ว และบานปลายกลายเป็นเหตุการณ์รุนแรงภายในเรือนจำ

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทะเลาะวิวาทระหว่างนักโทษ การกลั่นแกล้ง ไปจนถึงขั้นร้ายแรงคือ “การทำร้ายร่างกายผู้คุม” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงระดับความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

สาเหตุหลักของการถอดเมนูเต้าหู้ออก มาจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทางผู้ว่าการรัฐพยายามจัดหาอาหารให้ครบทั้งสามมื้อสำหรับนักโทษแต่ละราย ด้วยงบประมาณเพียง 3 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 133 บาทต่อวันเท่านั้น งบประมาณจำนวนนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางโภชนาการและเพียงพอสำหรับนักโทษทั้งหมด

คณะกรรมการตรวจสอบได้ออกมาระบุว่า เป็นเรื่องยากลำบากอย่างมากสำหรับทางเรือนจำ ในการบริหารจัดการงบประมาณเพียง 3.01 ปอนด์ต่อวัน เพื่อจัดหาอาหารที่ทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการ ดีต่อสุขภาพ และเพียงพอต่อนักโทษแต่ละราย

ผลสำรวจความคิดเห็นภายในเรือนจำพบว่า นักโทษถึงร้อยละ 40 รู้สึกว่าพวกเขาได้รับอาหารในปริมาณที่ไม่เพียงพอ และอาหารส่วนใหญ่มักไม่ดีต่อสุขภาพในการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับอาหารระหว่างนักโทษกับหัวหน้าเรือนจำ นักโทษจำนวนไม่น้อยได้แสดงความต้องการอย่างชัดเจนที่จะให้เมนู ‘เต้าหู้’ ซึ่งเป็นเมนูโปรดกลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นักโทษบางรายถึงขั้นทำการ “ร้องเรียน” อย่างเป็นทางการในรูปแบบลายลักษณ์อักษร เพื่อขอให้มีการนำเมนูอาหารบางอย่างกลับมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเต้าหู้ที่ถูกถอดออกไป แต่คำร้องเหล่านั้นไม่ได้รับการตอบสนองจากเจ้าหน้าที่ ทำให้ความไม่พอใจสะสมเพิ่มมากขึ้น

คณะกรรมการตรวจสอบยังชี้ให้เห็นถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีส่วนทำให้เกิดความตึงเครียดและความรุนแรงภายในเรือนจำ นั่นคือ “การที่นักโทษได้รับเวลาอยู่นอกห้องขังน้อยเกินไป” ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและพฤติกรรมของผู้ต้องขัง

เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของเมนูอาหารที่หายไป แต่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงระบบที่ซับซ้อน ทั้งในด้านการบริหารจัดการงบประมาณอาหาร การจัดหาอาหารที่มีคุณภาพและเพียงพอ รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต.