อุดรธานี – พายุฤดูร้อนพัดถล่มรุนแรงในหลายพื้นที่ของอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพียงชั่วเวลาประมาณ 5 นาที สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่พังเสียหายไปกว่า 100 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าแรงสูงยังหักโค่นเป็นบริเวณกว้าง ประชาชนหลายรายอยู่ในอาการตกใจและหวาดกลัว เผยไม่เคยพบเคยเจอพายุที่มีความรุนแรงในลักษณะนี้มาก่อน

เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2568 ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มอย่างรุนแรงในพื้นที่ ตำบลโนนสูง ตำบลหนองไผ่ และตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี แรงลมที่พัดมาอย่างกะทันหันและรวดเร็วได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง พัดเอาหลังคาบ้านเรือนประชาชนปลิวว่อนไปตามกระแสลม ต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นถูกแรงพายุหักโค่นลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ และที่น่ากังวลคือเสาไฟฟ้าแรงสูงจำนวนมากก็หักโค่นลงมาเช่นกัน ทำให้เกิดความกังวลเรื่องระบบไฟฟ้า

ความเสียหายเบื้องต้นมีรายงานว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน หลายหลังอยู่ในสภาพพังยับเยินจากแรงลม หลายครอบครัวต้องวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอดในช่วงเวลาที่พายุพัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว

น.ส.ณรดา อายุ 48 ปี เจ้าของร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งในพื้นที่ เล่าถึงนาทีระทึกว่า ขณะที่กำลังเตรียมร้านเพื่อขายในช่วงเย็น ปรากฏว่าท้องฟ้าก็มืดลงอย่างฉับพลัน ลมเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกใจ คือพายุหมุนขนาดใหญ่ดึงน้ำในหนองตรงข้ามร้านขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนที่พายุลูกนั้นจะหมุนเข้ามาถล่มที่ร้านของเธออย่างจัง ทำให้หลังคาร้านปลิวหายไปทั้งแถบ ร้านพังลงมาทับรถกระบะที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เธอเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอพายุที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้หนักที่สุดจนร้านพังเสียหายทั้งหมด

ด้าน นายอุดม อายุ 59 ปี ชาวบ้านป่าหวาย อีกคนหนึ่งที่ประสบเหตุ เล่าว่า ขณะที่ตนนั่งอยู่ในบ้านกับภรรยา ได้ยินเสียงฟ้าร้องและพายุพัดเข้ามาอย่างกะทันหัน ระหว่างนั้นสิ่งที่เห็นคือหลังคาบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามปลิวข้ามมาชนกับเสาไฟฟ้าหน้าบ้าน ลมพัดแรงมากจนเสาไฟฟ้าขาดและล้มลง จากนั้นเสาไฟฟ้าที่หักก็ปลิวมากระแทกกับบ้านของตนเอง ด้วยความตกใจสุดขีด จึงรีบดึงแขนภรรยาวิ่งหนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด เขาเล่าว่าพายุมาเร็วและแรงมากจริงๆ เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น แต่สร้างความเสียหายมหาศาล ตอนแรกนึกว่าเป็นแผ่นดินไหวด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าพายุจะรุนแรงได้ถึงขนาดนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้พบเจอพายุที่รุนแรงเพียงนี้

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป.