อุดรธานี – ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองรูปพรรณหนัก 23 บาท มูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท จากร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา ล่าสุดผ่านไป 18 วัน ตำรวจยังคงเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางร้านทองได้ประกาศตั้งรางวัลนำจับสูงถึง 50,000 บาท เพื่อเป็นข้อมูลในการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

เหตุการณ์ชิงทรัพย์อุกอาจนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.04 น. ของวันที่ 26 เมษายน โดยคนร้ายซึ่งสวมเสื้อคล้ายของไรเดอร์ส่งอาหาร และใช้ปืนปลอม บุกเข้าไปในร้านทองกลางห้างสรรพสินค้า จ.อุดรธานี ลงมือกวาดสร้อยคอทองคำไปอย่างรวดเร็ว รวมน้ำหนัก 23 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,100,000 บาท หลังก่อเหตุ คนร้ายได้ขว้างปืนปลอมใส่พนักงานที่พยายามวิ่งไล่ตาม ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์สีเหลืองไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่จอดไว้บริเวณด้านหน้าห้างฯ แล้วเร่งเครื่องหลบหนีไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ได้เรียกประชุมทีมสืบสวน ทั้งจาก สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว

พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ เผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ มีการแกะรอยเส้นทางของคนร้ายทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ พบว่าก่อนลงมือ คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์วนอยู่ในซอยเพชรน้ำใส และใช้เส้นทางต่างๆ อย่างชำนาญ ก่อนจะเข้ามาจอดรถบริเวณหน้าห้างฯ แล้วเดินเข้ามาก่อเหตุอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงประมาณ 1 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและอาจจะเป็นโจรมืออาชีพ

ส่วนเส้นทางหลบหนี คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ Honda Click สีเหลือง รุ่นปี 2020 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีเข้าตัวเมืองอุดรธานี และมีการจอดรถเพื่อเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ ก่อนจะเร่งเครื่องมุ่งหน้าไปยังถนนมิตรภาพฝั่งขาออก จ.หนองคาย แล้วหลบหนีหายไป ซึ่งทางตำรวจได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่รอยต่อ ทั้งอุดรธานี หนองคาย และหนองบัวลำภู ช่วยกันปูพรมค้นหาแต่ก็ยังไม่พบตัว

ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการประสานไปยังบริษัทเดลิเวอรี่ที่คนร้ายสวมเสื้อคล้ายของไรเดอร์ เพื่อสอบถามข้อมูลผู้สมัครหรือผู้จดทะเบียนที่ใช้รถจักรยานยนต์ Honda Click สีเหลืองในพื้นที่อุดรธานี แต่จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงที่น่าสงสัย นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ เช่น บุคคลพ้นโทษในพื้นที่อุดรธานีจำนวนกว่า 8,000 คน รวมถึงญาติพี่น้องที่ใช้รถรุ่นดังกล่าว และมีการนำผู้ต้องสงสัย 4 รายที่เข้าข่ายด้านการแต่งกายและยานพาหนะ มาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานของคนร้าย แต่ผลออกมาว่าไม่ตรงกัน

ทั้งนี้ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนที่ใช้เส้นทางบริเวณทางพาดรถไฟตลาดหนองบัว และบริเวณอื่นๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี โดยเฉพาะผู้ที่มีกล้องหน้ารถ หากพบภาพคนร้าย หรือมีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับบุคคลที่คล้ายคลึงกับคนร้าย ทั้งรูปร่าง การแต่งกาย รถจักรยานยนต์ หรือหมวกกันน็อคที่ใช้ ขอให้รีบแจ้งข้อมูลมายัง พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หรือ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่รู้จัก ซึ่งทางร้านทองได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ เป็นจำนวน 50,000 บาท.