TSPCA เตือนภัยแอนแทรกซ์ระบาด! แนะวิธีรับมือ หากพบสัตว์ตายปริศนา ห้ามแตะ ห้ามกินเด็ดขาด รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
TSPCA เตือนภัยแอนแทรกซ์ระบาด! แนะวิธีรับมือ หากพบสัตว์ตายปริศนา ห้ามแตะ ห้ามกินเด็ดขาด รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) โดย ดร.น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ กรรมการบริหาร ได้ออกมาเตือนประชาชนถึงความเสี่ยงและอันตรายจากโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรคกาลี” ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่อาจมีการระบาดในสัตว์และสามารถติดต่อมาสู่คนได้ พร้อมเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องและปลอดภัยหากพบเห็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ป่าล้มตายอย่างผิดปกติ
ดร.น.สพ.อลงกรณ์ เปิดเผยว่า โรคแอนแทรกซ์เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Bacillus anthracis ซึ่งมักพบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินพืชเกือบทุกชนิด เช่น วัว ควาย แพะ แกะ หมู รวมถึงสัตว์ป่าอย่างเก้ง กวาง ช้าง นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อไปยังสัตว์อื่นและคนได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันการติดต่อจากคนสู่คน
เชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis มีความสามารถพิเศษในการสร้างสปอร์ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม สามารถมีชีวิตอยู่ในธรรมชาติได้นานถึง 10-25 ปี เมื่อสัตว์ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ การกิน หรือทางบาดแผล เชื้อจะใช้เวลาฟักตัวตั้งแต่ 12 ชั่วโมงถึง 7 วัน โดยในสัตว์มักแสดงอาการและตายอย่างรวดเร็วภายใน 2-3 วันหลังแสดงอาการ ซึ่งอาการสำคัญในสัตว์ที่ติดเชื้อแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่:
- การติดเชื้อจากระบบหายใจ: สัตว์จะหายใจเอาสปอร์ที่ฟุ้งกระจายในอากาศเข้าไป มักมีอาการไข้สูง ตัวสั่น หายใจลำบาก ไอ บางรายมีอาการทางสมอง เช่น สะบัดหัว เดินวน อ่อนเพลีย ปอดถูกทำลาย และตายในที่สุด
- การติดเชื้อทางผิวหนัง: เชื้อเข้าทางบาดแผลตามผิวหนัง ทำให้เกิดตุ่มนูนมีน้ำใส ต่อมาตรงกลางเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ายถ่าน สัตว์จะเบื่ออาหาร ผอมลง และตายในที่สุด
- การติดเชื้อทางระบบทางเดินอาหาร: เกิดจากการกินสปอร์ที่ปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำ สัตว์มีอาการไข้สูง ตัวสั่น เสียงแหบ คอบวม ต่อมน้ำเหลืองโต อาเจียน อาจมีเลือดปน ท้องเสียรุนแรง ท้องบวม และเสียชีวิต
ลักษณะเด่นของซากสัตว์ที่ตายด้วยโรคแอนแทรกซ์คือ ซากจะเน่าและท้องบวมขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจมีเลือดสีดำคล้ำไม่แข็งตัวไหลออกตามช่องต่างๆ เช่น ปาก จมูก และทวารหนัก TSPCA เน้นย้ำข้อควรระวังที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ห้ามทำการเปิดผ่าซากสัตว์ที่สงสัยว่าติดเชื้อแอนแทรกซ์โดยเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้สัมผัส ควรให้สัตวแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจวินิจฉัยภายใต้ความปลอดภัย
สำหรับประชาชนทั่วไปที่พบเห็นสัตว์ล้มตายอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะหากมีลักษณะท้องขยายใหญ่ผิดปกติอย่างชัดเจน ข้อปฏิบัติที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามเข้าใกล้ซากสัตว์นั้นโดยเด็ดขาด ห้ามสัมผัส ห้ามชำแหละ และห้ามนำเนื้อไปบริโภคไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทันที เช่น เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ประจำอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต./เทศบาล) เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและจัดการซากอย่างถูกวิธี เช่น การเผาทำลายซาก หรือการฝังกลบในหลุมลึก 3-5 เมตร โดยมีการโรยปูนขาวทับซากก่อนกลบ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
TSPCA ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การบริโภคเนื้อสัตว์และนม ควรเลือกจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรองจากหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือกรมปศุสัตว์ เพื่อความปลอดภัยจากโรคต่างๆ รวมทั้งแอนแทรกซ์
การระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อทั้งสัตว์และมนุษย์