ทรัมป์แย้มสหรัฐเล็งพัฒนา ‘F-55’ เครื่องยนต์คู่-อัปเกรด ‘F-22 Super’ เสริมเขี้ยวเล็บทางอากาศ
เขี้ยวเล็บใหม่สหรัฐ – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยถึงแผนการพิจารณาพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่มีขีดความสามารถสูง เพื่อเสริมสร้างแสนยานุภาพทางอากาศของประเทศ
รายงานข่าวจากรอยเตอร์เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในระหว่างการประชุมร่วมกับนักธุรกิจที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งมีประธานบริษัทโบอิ้งเข้าร่วมด้วย ถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นใหม่แบบสองเครื่องยนต์ ได้แก่ เอฟ-55 (F-55) ซึ่งจะเป็นรุ่นที่ต่อยอดจากเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ เอฟ-35 (F-35) และการอัปเกรดเครื่องบินขับไล่ครองอากาศชั้นนำอย่าง เอฟ-22 แร็พเตอร์ (F-22 Raptor) ให้เป็นรุ่นที่ทันสมัยขึ้น โดยเรียกว่า เอฟ-22 ซูเปอร์ (F-22 Super)
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า "เราจะพัฒนา F-55 แล้วผมคิดว่าถ้าราคามันโอเค เราต้องทำให้มันโอเคแหละ เป็นเครื่องชนิดสองไอพ่น แล้วก็อัปเกรดต่อจาก F-35 แล้วจากนั้นเราก็ไปพัฒนา F-22 ต่ออีก"
การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางบริบทที่กองทัพสหรัฐกำลังเดินหน้าโครงการเครื่องบินรบรุ่นที่ 6 อย่าง เอฟ-47 (F-47) ซึ่งโบอิ้งได้รับสัมปทานในการพัฒนา โดย F-47 ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องบินรบแม่ข่ายที่สามารถควบคุมโดรนบินร่วมได้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเข้ามาแทนที่ เอฟ-22 แร็พเตอร์ ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาต่อยอดเครื่อง เอฟ-22 แร็พเตอร์ ที่มีใช้เฉพาะกองทัพสหรัฐในปัจจุบัน ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง และสภาคองเกรสยังคงลังเลที่จะอนุมัติให้กองทัพอากาศเร่งปลดประจำการ F-22 เพื่อเปิดทางให้ F-47 เข้ามาแทนที่โดยสมบูรณ์
ด้านนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าแผนการพัฒนาที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงนั้น สอดคล้องกับแผนการที่สภาคองเกรสเคยอนุมัติไว้หรือไม่
นายนิก คันนิงแฮม นักวิเคราะห์ด้านอากาศยานจาก เอเยนซี พาร์ตเนอร์ส ตั้งข้อสังเกตว่า F-55 ที่ผู้นำสหรัฐกล่าวถึง อาจหมายถึงโครงการ F/A-XX ของกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเครื่องบินรบใหม่เพื่อทดแทนเครื่อง โบอิ้ง เอฟ/เอ-18 ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต (Boeing F/A-18 Super Hornet) ภายในปี 2573 โดยปัจจุบัน โครงการ F/A-XX ยังอยู่ระหว่างการหารือระหว่างสภาคองเกรสและกองทัพเรือ
นักวิเคราะห์ยังมองว่า การอัปเกรด F-22 แร็พเตอร์ อาจมีราคาสูงมาก ขณะที่การพัฒนา F-35 ให้เป็นเครื่องบินสองเครื่องยนต์ (ซึ่งอาจหมายถึง F-55) นั้น แทบจะเทียบเท่ากับการสร้างเครื่องบินรบรุ่นใหม่ขึ้นมาเลยทีเดียว
ในส่วนของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) ซึ่งเป็นผู้พัฒนา F-35 และเคยพ่ายแพ้การประมูลโครงการ F-47 ให้กับโบอิ้ง ก็กำลังเร่งอัปเกรดซอฟต์แวร์และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ใน F-35 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ นายเจมส์ เทคเล็ต ซีอีโอของล็อกฮีด มาร์ติน เคยระบุว่า เทคโนโลยีที่นำมาใช้จะทำให้ F-35 มีสมรรถนะเทียบเท่า 80% ของ F-47 แต่มีราคาเพียงครึ่งเดียว เป็นการแสดงถึงความพยายามในการแข่งขันในตลาดเครื่องบินรบสมรรถนะสูง