สงครามการค้าโลกยุคใหม่: ทรัมป์เปิดศึกเต็มรูปแบบกับจีน ใช้ ‘ภาษี’ เป็นอาวุธ
ในยุคที่สงครามเปลี่ยนรูปแบบจากอาวุธยุทโธปกรณ์มาเป็น “การค้า” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีพื้นเพเป็นนักธุรกิจ กำลังใช้ความเชี่ยวชาญด้านการค้ามาเป็นเครื่องมือต่อสู้กับศัตรูหมายเลขหนึ่งอย่าง “สี จิ้นผิง” แห่งจีน
นโยบายภาษีของทรัมป์ที่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากเกือบทุกประเทศทั่วโลก สร้างความสั่นสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจโลก โดยอ้างว่าประเทศเหล่านี้เอาเปรียบสหรัฐฯ ในการค้า เริ่มจากการขึ้นภาษีพื้นฐาน 10% แต่บางประเทศเช่นแคนาดาและเม็กซิโกโดนขึ้นมากเป็นพิเศษ ส่วนจีนนั้นโดนหนักที่สุด
คณะทำงานของทรัมป์ได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายเป็นรายวัน อย่างไรก็ตาม จีนเป็นประเทศเดียวที่ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ เช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความไม่เกรงกลัวและพร้อมสู้ในทุกรูปแบบ
ผลกระทบจากสงครามการค้าครั้งนี้ส่งผลไปทั่วโลก แม้แต่ในสหรัฐฯ เองที่ประชาชนออกมาประท้วงเนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ทำให้รัฐบาลต้องหาทางผ่อนปรนนโยบายลงบ้าง
จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด ประเทศส่วนใหญ่ที่ถูกขึ้นภาษีเลือกที่จะไม่ตอบโต้และขอเจรจา ซึ่งถือเป็นชัยชนะครึ่งทางของทรัมป์ ขณะที่จีนพยายามสร้างพันธมิตรใหม่เพื่อต่อต้านสหรัฐฯ ทรัมป์จึงใช้โอกาสนี้ประกาศไม่ขึ้นภาษีประเทศที่ไม่ตอบโต้ภายใน 90 วัน เพื่อหวังผลทางการเมือง
สำหรับประเทศไทย ยังมีเวลาเตรียมตัวสำหรับการเจรจาและต้องวางแผนรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสงครามการค้าครั้งนี้อย่างรอบคอบ เพราะแม้จะเป็นประเทศเล็กแต่ก็ไม่ควรประมาทต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว