เพื่อนบ้านสุดป่วน ราวี 2 ปีไม่หยุด! ชาวบ้านนนท์สุดทน หอบหลักฐานร้องเทศบาลฯ สารพัดวีรกรรมก่อกวน
นนทบุรี – ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี สุดทนกับพฤติกรรมเพื่อนบ้านสุดป่วน ที่คอยราวี สร้างความเดือดร้อนรำคาญมานานกว่า 2 ปี ทั้งเปิดเพลงเสียงดัง ขับรถเบียด ปล่อยหมาขู่ และสารพัดวีรกรรม ล่าสุดหอบหลักฐานกล้องวงจรปิดเข้าร้องเรียนต่อเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ หวั่นเหตุการณ์บานปลายจนเกิดเหตุร้ายในอนาคต
วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เทศบาลเมืองบางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.สาริศา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี พร้อมด้วย น.ส.ณัชนิษฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับ นายชลธี สุนทรสุจริต เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองบางรักพัฒนา กรณีปัญหาพฤติกรรมของเพื่อนบ้านรายหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยในซอยมาเป็นระยะเวลานาน โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บริเวณถนนเลียบคลองบางไผ่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
น.ส.สาริศา หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า เพื่อนบ้านรายนี้มีพฤติกรรมที่น่าเอือมระอามานานกว่า 2 ปีแล้ว ทั้งการเปิดเพลงเสียงดังลั่นซอย โดยเฉพาะในยามวิกาล เมื่อเจ้าหน้าที่ รปภ. เข้าไปตักเตือน กลับถูกท้าทายให้ไปแจ้งตำรวจ กว่าจะยอมปิดเพลงก็เมื่อตำรวจมาถึง และหลังจากนั้นไม่นานก็จะกลับมาทำพฤติกรรมเดิมซ้ำอีก นอกจากนี้ ยังมีการขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้านแล้วเร่งเครื่องส่งเสียงดัง หรือบีบแตรเสียงดังโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งตนพยายามจะพูดคุยสอบถามถึงปัญหา แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบสนอง กลับมีแต่คนของเขามาบอกว่าตนเอาเรื่องของเขาไปพูด ทั้งที่ตนเองไม่เคยรู้ว่าไปพูดเรื่องอะไร ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านรายนี้จะคอยมามองหน้าอยู่เสมอ จนกระทั่งปลายปีที่แล้ว ขณะที่ตนกำลังยืนอยู่กับเพื่อนบ้านรายอื่น เพื่อนบ้านคนดังกล่าวก็ได้ปล่อยสุนัข 2 ตัวออกมา พร้อมพูดว่า “ไปกัดมันเลย” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายมาก โดยเฉพาะหากสุนัขไปกัดเด็ก จึงได้นำเรื่องเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทองแล้ว
ด้าน น.ส.ณัชนิษฐ์ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมที่เลวร้ายที่สุดคือการพยายามขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน โดยเมื่อ 2 ปีก่อน ตนเคยถูกขับรถยนต์พยายามจะปาดให้ล้ม และล่าสุดแฟนของตนก็เพิ่งถูกขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวขณะกำลังจะเข้าบ้าน ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ได้ไปแจ้งความไว้แล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ เช่น การส่องไฟสปอร์ตไลท์เข้าในบ้านตอนกลางคืน การปาขวดแก้วเข้ามาในบ้าน หรือการเบิ้ลเครื่องรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่หน้าบ้านอีกด้วย ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีความสัมพันธ์ที่ดี อาจจะเคยให้ขนมกันบ้าง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้สุงสิงกันมากนัก เนื่องจากต่างคนต่างทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาพบปะ อาจจะเป็นเพราะความห่างเหินนี้ทำให้เขาคิดไปเองว่าเรามีปัญหาอะไรหรือไม่ เมื่อไปแจ้งความ เขาก็ไม่มาพูดคุยเคลียร์ปัญหา แต่กลับมาสร้างปัญหาแบบนี้แทน ตนและชาวบ้านในซอยต่างต้องการทราบต้นตอของปัญหาที่แท้จริง และอยากให้เรื่องนี้ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะพฤติกรรมนี้เริ่มขยายวงกว้างไปยังเพื่อนบ้านซอยใกล้เคียงด้วย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายสิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี เพื่อนบ้านคู่กรณี ซึ่งนายสินยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับใคร และปกติก็ไม่ได้สุงสิงกับใคร ส่วนเรื่องการเปิดเพลงเสียงดัง ปล่อยหมาไปกัด หรือทะเลาะกับใคร ก็ไม่เคยทำ นายสินมองว่าตนเองก็ถูกละเมิดสิทธิ์ และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง โดยย้ำว่าตนเองไม่มีปัญหากับใคร แต่ไม่ทราบว่าใครอยากจะมีปัญหากับตนหรือเปล่า
ภายหลังรับเรื่องร้องเรียน นายชลธี สุนทรสุจริต เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองบางรักพัฒนา ได้ประสานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและได้พูดคุยกับนายสินแล้ว เบื้องต้นทางเทศบาลฯ ได้ทำการตักเตือนไม่ให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือรบกวนสิทธิ์ของผู้อื่น ซึ่งนายสินก็ได้รับทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม เทศบาลฯ จะติดตามดูพฤติกรรมต่อไปว่ามีการปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ หากยังคงมีพฤติกรรมเช่นเดิม ก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป