หัวใจน้อย ๆ อนุรักษ์ทะเล! นักเรียนตรังปลูกหญ้าทะเลฝีมือตัวเอง หวังฟื้นฟูแหล่งอาหารพะยูน
ที่จังหวัดตรัง เรื่องราวดี ๆ จากน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านฉางหลาง อำเภอสิเกา ได้สร้างความประทับใจ เมื่อพวกเขาใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ร่วมกันทำกิจกรรมปลูกหญ้าทะเล ณ ท่าเรือหาดปากเมง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม.
หญ้าทะเลทั้งหมดที่นำมาปลูกนั้นเป็นผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงด้วยฝีมือของน้อง ๆ เอง ที่ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลของโรงเรียนบ้านฉางหลาง กิจกรรมนี้นอกจากจะสร้างความสนุกสนานแล้ว ยังทำให้นักเรียนได้รับความรู้มากมายจากพี่ ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เกี่ยวกับความสำคัญของหญ้าทะเลและระบบนิเวศทางทะเล.
ด.ญ.กนกวดี ถ่อแก้ว หรือ น้องกอหญ้า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “หนูชอบมากที่ได้มาปลูกหญ้าทะเลกับเพื่อน ๆ หนูอยากให้หญ้าทะเลที่เราเพาะปลูกเองโตเร็ว ๆ จะได้เป็นที่อยู่ของสัตว์ทะเล โดยเฉพาะพะยูนจะได้มีหญ้าทะเลเป็นอาหารมากขึ้น หญ้าทะเลยังช่วยฟอกอากาศ ช่วยลดมลพิษในน้ำ ถ้าทะเลบ้านเราอุดมสมบูรณ์ สัตว์น้ำก็จะเพิ่มขึ้น ชาวประมงก็มีรายได้เพิ่ม ขอให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทะเลและหญ้าทะเลกันนะคะ”
กิจกรรมครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายการอนุรักษ์พะยูนของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ซึ่งได้กำหนดเขตอนุรักษ์พะยูนบริเวณหาดปากเมง ครอบคลุมพื้นที่ 1,300 ไร่ ตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากพะยูนเป็นหนึ่งในสัตว์ป่าสงวนที่ใกล้สูญพันธุ์ และยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรพะยูนอาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศไทย.
ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลโรงเรียนบ้านฉางหลาง ถือเป็นโมเดลความสำเร็จในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์พะยูนและทะเลไทย โดยเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งโรงเรียน ชุมชน และภาคเอกชน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การสำรวจ เก็บหญ้าทะเลที่ลอยตามชายหาดมาเพาะขยายพันธุ์ และนำไปปลูกในพื้นที่อนุรักษ์ การเพาะเลี้ยงหญ้าทะเลมีบทบาทสำคัญในการเป็นถิ่นอาศัย แหล่งอาหาร ดูดซับคาร์บอนฯ เป็นพื้นที่วางไข่และอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน รวมถึงช่วยลดมลพิษและปรับปรุงคุณภาพน้ำในทะเล.
นางสุดใจ ตั้งคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านฉางหลาง เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ ได้ส่งเสริมให้นักเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมอนุรักษ์หญ้าทะเลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงพื้นที่สำรวจ การเก็บและเพาะขยายพันธุ์ รวมถึงการลงมือปลูก ทำให้เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญนอกห้องเรียนของนักเรียน.
ด้านภาคเอกชน บริษัท ฟาร์มอนุบาลลูกกุ้งภาคใต้ ของซีพีเอฟ ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการสนับสนุนศูนย์เรียนรู้ฯ โดยทีมจิตอาสาได้มอบอุปกรณ์และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถังเพาะ การเดินระบบน้ำและไฟฟ้า รวมถึงการปรับปรุงอาคารและติดตั้งกระเบื้องใสเพิ่มแสง ทำให้ศูนย์ฯ มีศักยภาพในการเพาะขยายพันธุ์หญ้าทะเลได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 กิ่งต่อปี และทางโรงเรียนยังสามารถต่อยอดนำกิ่งหญ้าทะเลที่เพาะได้ไปจำหน่ายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำไปปลูกต่อ สร้างรายได้หมุนเวียนกลับสู่ศูนย์เรียนรู้.
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ในการร่วมกันดูแลและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทะเลไทยและสัตว์ทะเลที่น่ารักอย่างพะยูน.