ตรัง – เจ้าหน้าที่กองปราบปราม สนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และตำรวจสืบสวนภาค 9 เร่งติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายโหด ก่อเหตุฆ่าและเผานั่งยาง 3 ศพกลางสวนปาล์ม ล่าสุดเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุด พบหลักฐานสำคัญ โดยเฉพาะรถกระบะที่เชื่อว่าใช้เป็นพาหนะในการขนยางรถยนต์เพื่อนำมาเผาศพเหยื่อ พร้อมเร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อขยายผล

จากกรณีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุสะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนยิง นายสุรเชษฐ์ หรือโกเชษฐ์ อายุ 69 ปี, นายอนันต์ อายุ 49 ปี และนายวีระยุทธ อายุ 41 ปี เสียชีวิต ก่อนนำศพไปเผานั่งยางอย่างโหดเหี้ยมภายในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ 1 ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจและเป็นที่สนใจของประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งคลี่คลายคดี ติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย (อ้างอิงข่าวเก่า: จ่อออกหมายจับ 4 ฆาตกรโหด ฆ่าเผานั่งยาง 3ศพ ผจก.สวนปาล์ม-ลูกน้อง, ล่า ‘ไอ้บิน ควนกุน’ พร้อมสมุนก่อเหตุฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ เปิดพฤติกรรมสุดเหี้ยม)

ความคืบหน้าล่าสุดในคดีนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 พลตำรวจตรีวิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอกอนุสรณ์ ทองไสย ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.6 บก.ป.) และพันตำรวจตรีมนตรี สงคง สารวัตรกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (สว.กก.6 บก.ป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 (บก.สส.ภ.9) ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ จำนวน 6 จุด ในหลายพื้นที่

จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดหลักฐานสำคัญได้หลายรายการ หนึ่งในนั้นคือ รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทาดำ จำนวน 1 คัน ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ขับออกไปซื้อยางรถยนต์เพื่อนำกลับมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเผานั่งยางอำพรางศพเหยื่อทั้งสามราย นอกจากนี้ ยังตรวจยึดวัตถุพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีได้อีกหลายรายการ โดยเฉพาะเสื้อผ้า ซึ่งเชื่อว่าเป็นชุดที่กลุ่มคนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุสะเทือนขวัญ

หลังจากการตรวจยึด เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อนำไปดำเนินการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายต่อไป

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้เชิญตัวบุคคลต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้ มาทำการซักถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือให้การช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการหลบหนีหรือไม่

สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งคาดว่าอาจไหวตัวและหลบหนีไปได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังคงระดมกำลังเร่งแกะรอยเส้นทางการหลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด และนำตัวมาลงโทษตามความผิดที่ได้กระทำไว้