ลพบุรี – เหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจและตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดขึ้นที่จังหวัดลพบุรี เมื่อชุดสายตรวจของสถานีตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์หมดกลางทาง แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการบริการประชาชนในทุกสถานการณ์

เหตุการณ์นี้เปิดเผยโดย พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ซึ่งได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ท.ปกาศิต จารัตน์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 พร้อมด้วยร้อยเวรฯ และชุดสายตรวจ ออกปฏิบัติหน้าที่ “ว.4” หรือภารกิจดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในพื้นที่รับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ

ขณะที่ชุดสายตรวจนำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.ปกาศิต กำลังออกตรวจตราความเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในบริเวณต่าง ๆ ของจังหวัดลพบุรี และได้เดินทางผ่านเข้ามายังบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก และอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ตลอดเวลา

ณ บริเวณสถานีขนส่งฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้สังเกตเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ข้างทางในลักษณะที่เหมือนจะประสบปัญหา เนื่องจากเจ้าของรถพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์แต่ไม่ติด จึงได้แสดงความห่วงใย เข้าไปสอบถามถึงสาเหตุและปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นมิตร

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่าปัญหาของรถยนต์คันดังกล่าวคือแบตเตอรี่หมด ทำให้ระบบไฟฟ้าไม่เพียงพอในการสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจและความไม่สะดวกให้กับผู้ขับขี่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นในที่สาธารณะหรือในเวลาเร่งด่วน

ด้วยไหวพริบและความพร้อมในการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวชุดดังกล่าวไม่ได้นิ่งเฉย แต่ได้นำอุปกรณ์ประจำรถและให้ความช่วยเหลือทันที โดยได้ทำการ “พ่วงแบตเตอรี่” รถยนต์คันที่ประสบปัญหา ด้วยความเชี่ยวชาญและรวดเร็ว

ภายหลังจากการพ่วงแบตเตอรี่เสร็จสิ้น รถยนต์คันดังกล่าวก็สามารถกลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ ทำให้เจ้าของรถรู้สึกดีใจและโล่งใจเป็นอย่างมากที่ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและทันท่วงที

เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวได้กล่าวแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวอย่างสุดซึ้ง พร้อมทั้งแสดงความประทับใจในความใส่ใจของเจ้าหน้าที่ที่ได้เข้ามาสอบถามและให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกที่ดีและเป็นมิตรต่อประชาชนอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ถือโอกาสประชาสัมพันธ์ “สายด่วน 1155” ซึ่งเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจท่องเที่ยว ที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวก รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนที่อาจประสบปัญหาในภายภาคหน้าได้ทราบถึงช่องทางการติดต่อขอความช่วยเหลือที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ทางด้าน พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กก.2 บก.ทท.1 ได้กล่าวเน้นย้ำถึงภารกิจสำคัญของตำรวจท่องเที่ยวที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ยังรวมถึงการดูแลความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในพื้นที่รับผิดชอบด้วย โดยท่านได้กล่าวว่า “สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอะไร ในพื้นที่รับผิดชอบ ได้โปรดโทรศัพท์ 1155 ได้เลย ตำรวจท่องเที่ยว พร้อมไปดำเนินการได้ทันที 24 ชม.”

เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ การช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แต่มีความหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตำรวจและประชาชนได้เป็นอย่างดี