กรุงเทพฯ – นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวล่าสุด โดยแสดงความยินดีกับแนวโน้มเชิงบวกจากตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

รัฐมนตรีสรวงศ์กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ ได้เห็นสัญญาณที่ดีจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาววันแรงงานจีน หรือ Golden Week ซึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายวันกลับมาเกินกว่าวันละ 100,000 คนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตลาดที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือตลาดระยะไกลที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567

ตลาดระยะไกลดาวรุ่ง ตัวเลขพุ่งน่าประทับใจ

ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลที่เติบโตโดดเด่นในช่วง 1 มกราคม – 1 พฤษภาคม 2568 ได้แก่:

• อิตาลี: จำนวน 121,152 คน เพิ่มขึ้น 27,539 คน คิดเป็น 29.42%
• โปแลนด์: จำนวน 112,989 คน เพิ่มขึ้น 27,897 คน คิดเป็น 32.78%
• ซาอุดีอาระเบีย: จำนวน 45,903 คน เพิ่มขึ้น 5,078 คน คิดเป็น 12.44%
• เดนมาร์ก: จำนวน 79,013 คน เพิ่มขึ้น 7,299 คน คิดเป็น 10.18%
• แคนาดา: จำนวน 114,136 คน เพิ่มขึ้น 9,911 คน คิดเป็น 9.51%

รัฐมนตรีสรวงศ์กล่าวเสริมว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดระยะไกลเหล่านี้ โดยเฉพาะจากอิตาลีและโปแลนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงกว่า 30% เป็นสัญญาณที่ดีที่อาจช่วยทดแทนตลาดที่อาจมีการชะลอตัวลงไปได้บ้าง

ภาพรวมและอันดับนักท่องเที่ยวสะสม

สำหรับภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 1 พฤษภาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 12.21 ล้านคน สร้างรายได้รวม 5.81 แสนล้านบาท

สิบอันดับแรกของประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่:

1. จีน: 1.66 ล้านคน
2. มาเลเซีย: 1.54 ล้านคน
3. รัสเซีย: 8.8 แสนคน
4. อินเดีย: 7.58 แสนคน
5. เกาหลีใต้: 5.88 แสนคน
6. สหราชอาณาจักร: 4.45 แสนคน
7. เยอรมันนี: 4.25 แสนคน
8. สหรัฐอเมริกา: 4 แสนคน
9. ฝรั่งเศส: 3.9 แสนคน
10. ญี่ปุ่น: 3.79 แสนคน

ตัวเลขน่าสังเกตในเดือนเมษายน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลน่าสังเกตคือ ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 2.54 ล้านคน ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าราว 7.6% โดยในเดือนเมษายนนั้น อันดับของนักท่องเที่ยวมีการเปลี่ยนแปลง โดยมาเลเซียขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ที่ 3.62 แสนคน แซงหน้าจีนที่อยู่ในอันดับ 2 ด้วยจำนวน 3.17 แสนคน

รัฐมนตรีสรวงศ์เชื่อมั่นว่า ศักยภาพการเติบโตของตลาดระยะไกลเหล่านี้จะเป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนและสร้างสมดุลให้กับภาคการท่องเที่ยวของไทยในระยะต่อไป