ทิวาคมโอสถ เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก ชู ‘หม่อง Muay’ เจาะกลุ่มออฟฟิศซินโดรม รับโอกาส-สู้ความท้าทายปี 2025

ทิวาคมโอสถ เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก ชู ‘หม่อง Muay’ เจาะกลุ่มออฟฟิศซินโดรม รับโอกาส-สู้ความท้าทายปี 2025

กรุงเทพฯ – บริษัท ทิวาคมโอสถ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาบรรเทาอาการปวดและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพชั้นนำ นำโดย นางสาวอาธิชาภรณ์ จันทร์ประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกาศแผนธุรกิจเชิงรุกในปี 2025 โดยมุ่งเป้าขยายตลาดอย่างเต็มกำลัง ทั้งในส่วนของตลาดภายในประเทศที่เน้นเจาะกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ และการขยายตลาดสู่ระดับสากลอย่างจริงจัง

ทิวาคมโอสถ เป็นที่รู้จักจากผลิตภัณฑ์คุณภาพที่หลากหลาย เช่น ยาหม่องน้ำ ตรา Muay, แผ่นแปะบรรเทาอาการปวด นีโอบัน (Neobun) และ พลาสเตอร์ปิดแผล นีโอพลาสต์ (Neoplast) ซึ่งเป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนาน

โอกาสและความท้าทายในตลาดผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดปี 2025

นางสาวอาธิชาภรณ์กล่าวว่า ตลาดผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดในปี 2025 ยังคงมีทั้งโอกาสและความท้าทายที่น่าสนใจ โดยในด้านของโอกาส ตลาดนี้มีการเติบโตในอัตราเลขสองหลักอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 และคาดว่าจะยังคงเติบโตต่อไป ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับความปวดและการเป็นออฟฟิศซินโดรมทั่วโลก รวมถึงความสนใจในกิจกรรมทางกายภาพที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดมากขึ้นตามไปด้วย

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ภายในปี 2050 จะมีประชากรโลกราว 843 ล้านคนต้องทนทุกข์จากอาการปวดหลังส่วนล่าง ขณะที่ในประเทศไทย ข้อมูลจากศูนย์การแพทย์แผนไทยของรัฐบาลชี้ว่า ในปี 2024 เพียงปีเดียว มีผู้เข้ารับการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมถึง 483,850 คน ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจมหาศาลสำหรับผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ตลาดผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดในประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลักสองประการ คือ การแข่งขันที่รุนแรงจากทั้งแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งแผ่นแปะ น้ำมัน เจล สเปรย์ และครีม และประการที่สองคือ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งเคยเป็นฐานลูกค้าหลัก ประกอบกับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน

สองกลยุทธ์หลักในปี 2025

เพื่อฉวยโอกาสการเติบโตและเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ ทิวาคมโอสถ จะมุ่งเน้นสองกลยุทธ์หลักในปี 2025 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทจะครบรอบ 80 ปีด้วย

กลยุทธ์แรก คือ การสร้างฐานลูกค้าใหม่ โดยการปรับปรุงการรับรู้และการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์บรรเทาอาการปวด ได้แก่ หม่อง Muay, นีโอบัน และนีโอพลาสต์ พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และชดเชยกับยอดขายที่ลดลงจากกลุ่มนักท่องเที่ยว

กลยุทธ์ที่สอง คือ การเร่งขยายตลาดในระดับสากล โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและยุโรป เพื่อคว้าโอกาสการเติบโตในระยะยาวที่มาจากดีมานด์ด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่

‘หม่อง Muay’ จะเป็นหัวหอกสำคัญ

สำหรับการรุกตลาดต่างประเทศ บริษัทจะใช้แบรนด์ ‘หม่อง Muay’ เป็นหัวหอกหลัก โดยใช้ประโยชน์จากการที่มวยไทยเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ในฐานะส่วนหนึ่งของ Soft Power ของไทย และรากฐานที่มาจากภูมิปัญญาไทยดั้งเดิม การขยายตลาดในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่ตลาดเอเชีย ตามด้วยสหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง และยุโรป

ข้อมูลเชิงลึกจากรูปแบบการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวแสดงให้เห็นว่า แบรนด์ ‘หม่อง Muay’ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวยุโรปและจีน ซึ่งนิยมใช้รูปแบบที่เป็นน้ำมันและครีม ขณะที่ลูกค้าในเอเชียจะนิยม นีโอบัน และนีโอพลาสต์ มากกว่า และผู้บริโภคในตะวันออกกลางก็แสดงความชื่นชอบในนีโอบันเช่นกัน

ขณะนี้ บริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกพันธมิตรที่มีความคุ้นเคยกับกฎระเบียบด้านสุขภาพในท้องถิ่น และมีความมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ในระยะยาว โดยปัจจุบันมีพันธมิตรแล้วในหลายประเทศ เช่น เมียนมา ฮ่องกง สปป.ลาว กัมพูชา และบางประเทศในยุโรป

นางสาวอาธิชาภรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “แม้ว่าประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง แต่ความท้าทายด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ทำให้เป็นตลาดที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวนานกว่าเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ”

เธอมั่นใจว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ‘หม่อง Muay’ ในตลาดโลก และบรรลุเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในอัตราเลขสองหลักอย่างสม่ำเสมอในแต่ละปี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ สัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 10% เป็นมากกว่า 20% ภายในสามปีข้างหน้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *