ปทุมธานี – เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่ศูนย์ประสานงานของทีมผู้สมัคร นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว พร้อมด้วยนางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ หรือ น้ำอ้อย ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี เบอร์ 4 และนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ ลูกพีช ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลธัญบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งทีมของพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้สำเร็จ

ในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว นายกเบี้ยว ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับนายสมิทธิพัฒน์ หรือ ลูกพีช โดยกล่าวชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกว่า ทางครอบครัวได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแสดงความรับผิดชอบและเยียวยาผู้เสียหาย ทั้งการกราบขอโทษ การเดินทางไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล และการนำเงินไปช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล

นายกเบี้ยว เปิดเผยว่า ตนและลูกชายได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลหลายครั้งถึง 3-4 ครั้ง แต่กลับถูกบุคคลที่ 3 กีดกันทุกอย่าง แม้กระทั่งการที่ลูกพีชจะนำเงินไปชำระค่ารักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็ไม่ยอมรับ โดยอ้างว่าญาติผู้ป่วยได้ชำระไปแล้ว แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ญาติ แต่เป็นบุคคลที่ 3 ที่เป็นผู้ชำระ

นายกเบี้ยว กล่าวต่อไปว่า ลูกพีชยังคงพยายามจะเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ โดยโรงพยาบาลแนะนำให้เขียนจดหมายน้อยทิ้งไว้เพื่อสื่อสาร ซึ่งทางครอบครัวได้พยายามนำเงินไปวางไว้เพื่อแสดงเจตนาในการเยียวยา แต่ทางโรงพยาบาลก็ยังคงไม่ยอมรับเงินดังกล่าว “เราทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ไม่ใช่เรามีเจตนาจะไม่เยียวยา เราสงสารคุณลุงคุณป้าด้วยซ้ำ” นายกเบี้ยวกล่าวย้ำ

นายกเบี้ยว ระบุว่า เจตนาที่แท้จริงของครอบครัวคือการดูแลและเยียวยาผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ เนื่องจากมีบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องและทำให้เรื่องไม่สามารถคลี่คลายได้ “ถ้าจบก็คงจบไปแล้ว แต่นี่ไม่จบ” เขากล่าว

สำหรับความคืบหน้าทางคดี นายกเบี้ยว ชี้แจงว่า ขณะนี้นายสมิทธิพัฒน์ หรือ ลูกพีช ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว “น้องพีชทำผิดกฎหมายใช้กรรมไป อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม เราไม่ได้ไปวิ่งเต้น ไม่มีเส้นไม่มีสาย เรามีแต่น้ำใจที่จะดูแลพ่อแม่พี่น้องของเรา” นายกเบี้ยวกล่าวยืนยัน พร้อมเน้นย้ำว่า ครอบครัวพร้อมยอมรับผลการตัดสินของศาล และไม่ได้เข้าไปแทรกแซงกระบวนการทางกฎหมายแต่อย่างใด “เราลูกผู้ชายพร้อมรับผิดทุกกรณี ผมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เรายอม น้องพีชผิด เราใช้กรรมไป น้องพีชไม่ผิด เราพร้อมเยียวยา”

ด้านนายสมิทธิพัฒน์ หรือ ลูกพีช ได้กล่าวขอบคุณชาวธัญบุรีที่ยังคงให้ความไว้วางใจตนเองและครอบครัว พร้อมยืนยันว่าจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของบิดาในการช่วยเหลือประชาชน “พ่อของตนเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้ว ตนจะสานต่อในการช่วยเหลือคนให้เต็มที่ให้มากที่สุด”

เมื่อถูกถามว่าเรื่องคดีจะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ ลูกพีช กล่าวว่า ตนเชื่อว่าจะไม่กระทบกับการทำงาน และหากตนผิดจริง ก็พร้อมชดใช้ในส่วนที่ผิดตามกระบวนการกฎหมาย แต่เรื่องคดีจะไม่มีผลกับการทำงานรับใช้ประชาชน

ในตอนท้ายของการแถลงข่าว นายกเบี้ยว ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่เลือกคนทำงาน พร้อมทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ว่า “เชื่อชาวธัญบุรีกินหญ้าหวานตลอดไป”