กรุงเทพมหานคร – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางเข้ากราบสักการะ พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะภาค 11 ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

การเดินทางเข้าวัดสระเกศในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเคารพและเลื่อมใสที่ทั้ง ดร.ทักษิณ และนายสารัชถ์ มีต่อพระพรหมสิทธิ ซึ่งถือเป็นพระเถระที่ตระกูลชินวัตรให้ความเคารพและศรัทธามาอย่างยาวนาน ต่อเนื่องมาจากยุคของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ในอดีต ทั้งนี้ เมื่อมีงานมงคลสำคัญของบุคคลในตระกูลชินวัตร อาทิ วันคล้ายวันเกิดของ ดร.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ตระกูลชินวัตรก็มักจะรวมญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมทำบุญที่ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศ เป็นประจำ

สำหรับ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี และครอบครัว ก็มีความสัมพันธ์อันดีและมักคุ้นกับวัดสระเกศมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และมีความเคารพนับถือในพระพรหมสิทธิ ล่าสุด นายสาริศ รัตนาวะดี บุตรชายของนายสารัชถ์ และนางนลินี รัตนาวะดี ก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมเบื้องต้นอยู่ที่วัดสระเกศนี้ โดยมีพระพรหมสิทธิ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “สิทฺธิสาโร” ซึ่งมีความหมายว่า ผู้มีความสำเร็จ หรือความชอบธรรมเป็นสาระ

ในโอกาสนี้ ครอบครัวรัตนาวะดี นำโดย นายสารัชถ์ นางนลินี และนางสาวสิตมน รัตนาวะดี ร่วมกับมูลนิธิกัลฟ์ ได้มีศรัทธาอันเป็นกุศล บริจาคปัจจัยแก่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์โครงการบูรณะอาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม สมเด็จพระสังฆราชญาโณทยมหาเถร พ.ศ. 2501 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสระเกศฯ เป็นจำนวนเงินถึง 41,000,000 บาท (สี่สิบเอ็ดล้านบาทถ้วน)

พระพรหมสิทธิ ได้เมตตารับการถวายปัจจัยดังกล่าว พร้อมด้วย พระเทพปฏิภาณกวี เจ้าคณะเขตภาษีเจริญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส และคณะสงฆ์วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ร่วมเป็นสักขีพยานในเจตนากุศลอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ของครอบครัวรัตนาวะดี

อาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรมหลังนี้เป็นอาคาร 2 ชั้น มีความยาว 40 เมตร กว้าง 25 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 โดยเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ญาโณทยมหาเถระ) สมัยที่ยังดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เดิมทีได้อำนวยการให้เป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนบาลีอบรมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และยังใช้เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมสำหรับศึกษาเล่าเรียนหลักสูตรนักธรรมและบาลี รวมถึงเป็นสถานที่จัดสอบบาลีสนามหลวงสำหรับพระภิกษุสามเณรทั่วภูมิภาคมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี

ปัจจุบันอาคารเรียนหลังนี้อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างทรุดโทรมและไม่สะดวกต่อการใช้งาน โครงการบูรณปฏิสังขรณ์ที่ได้รับการอุปถัมภ์จากมูลนิธิกัลฟ์และครอบครัวรัตนาวะดีในครั้งนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยฟื้นฟูให้กลับมาเป็นแหล่งบ่มเพาะศึกษาพระธรรมวินัยแก่พระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้งในยุคปัจจุบัน

ในท้ายที่สุด คณะสงฆ์วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีพระพรหมสิทธิ เป็นประธาน ได้กล่าวอ้างอิงถึงกฤษฎาภินิหารแห่งพระบรมสารีริกธาตุ บนบรมบรรพต (ภูเขาทอง) และบารมีของเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ (ญาโณทยมหาเถระ) เพื่อรวมกันเป็นบุญนิธิ ดลบันดาลประทานพรให้ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี และครอบครัว รวมถึงมูลนิธิกัลฟ์ จงประสบความเจริญรุ่งเรือง สมปรารถนาในสิ่งอันชอบธรรมทั้งปวงโดยฉับพลันทุกประการ