กรมชลประทานยืนยันสถานการณ์น้ำทั่วประเทศตามแผน พร้อมรับมือฤดูฝนปี 2568 เต็มที่
กรุงเทพฯ – กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำล่าสุด ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ยืนยันภาพรวมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ พร้อมเน้นย้ำมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงอย่างเข้มข้น ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รายงานจากกรมชลประทานระบุว่า ปัจจุบัน (7 พ.ค. 2568) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 43,225 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯ รวมกัน โดยยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 33,112 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญ มีเขื่อนหลัก 4 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก, เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกันอยู่ที่ประมาณ 13,351 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯ รวมกัน ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 11,520 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทางด้านการเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง กรมชลประทานได้ดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) อย่างเคร่งครัด โดยเน้นมาตรการเชิงรุก ดังนี้:
- วิเคราะห์และกำหนดพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยซ้ำซาก เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
- บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งถัดไป
- กำหนดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และทรัพยากรให้พร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง
- ติดตาม วิเคราะห์ และประเมินแนวโน้มสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
- ประสานข้อมูลสถานการณ์น้ำระหว่างหน่วยงานส่วนกลางและหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
- ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของอาคารชลประทาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ
- ดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลได้สะดวก
- เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ประจำในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือและแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดอุทกภัย
มาตรการทั้งหมดนี้ดำเนินการตามข้อสั่งการของ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
กรมชลประทานยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความมั่นคงทางน้ำของประเทศ