กรมการท่องเที่ยว ชูอินเซนทีฟ 30% ดึงกองถ่ายยุโรปหลังคานส์ หวังปั้นไทยสู่ ‘World Best Film Destination’
กรมการท่องเที่ยว ชูอินเซนทีฟ 30% ดึงกองถ่ายยุโรปหลังคานส์ ปักหมุดไทยเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์โลก
กรุงเทพฯ – กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมใช้มาตรการเชิงรุกครั้งสำคัญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ โดยได้ประกาศนโยบายอินเซนทีฟคืนเงิน (Cash Rebate) สำหรับกองถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีส์จากต่างประเทศ สูงสุดถึง 30% โดยมีเป้าหมายหลักในการดึงดูดผู้สร้างภาพยนตร์จากทวีปยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง และเพิ่งเสร็จสิ้นการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 78 (Cannes Film Festival) ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า นโยบายการคืนเงินสูงสุด 30% นี้ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็น “Thailand: World Best Film Destination” หรือ จุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยกรมการท่องเที่ยวเล็งเห็นโอกาสสำคัญจากงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกที่รวบรวมผู้สร้างภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์ และผู้บริหารสตูดิโอชั้นนำจากทั่วยุโรปและทั่วโลก การนำเสนอมาตรการจูงใจทางการเงินที่น่าดึงดูดนี้ จะช่วยให้ประเทศไทยเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในใจของผู้ผลิตภาพยนตร์ที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายทำที่พร้อมด้วยศักยภาพ ทั้งความงดงามของโลเคชันที่หลากหลาย ทีมงานที่มีประสบการณ์ และการสนับสนุนจากภาครัฐ
อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวเน้นย้ำว่า มาตรการอินเซนทีฟนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับไทย แต่การเพิ่มเพดานการคืนเงินสูงสุดเป็น 30% พร้อมกับการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในเวทีสำคัญอย่างเมืองคานส์ จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์และซีรีส์ระดับสากลที่ต้องใช้ทุนสร้างสูง
“เรามองว่าเทศกาลหนังเมืองคานส์เป็นเวทีสำคัญในการพบปะผู้สร้างหนังระดับโลก การประกาศนโยบายคืนเงินสูงสุดถึง 30% ช่วยให้ไทยกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ผลิตภาพยนตร์ที่กำลังมองหาโลเคชันใหม่ ๆ ที่มีทั้งความสวยงามและความพร้อมของทีมงานที่มีประสบการณ์” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จที่ผ่านมาในการดึงดูดกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งนำมาซึ่งรายได้จำนวนมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของไทย อาทิ ภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง Meg2, ซีรีส์ S.W.A.T, ซีรีส์ยอดนิยม The White Lotus season 3 และล่าสุดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Jurrasic World : Rebirth ซึ่งการเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยไม่เพียงแต่สร้างเม็ดเงิน แต่ยังช่วยโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยไปสู่สายตาชาวโลกผ่านสื่อภาพยนตร์และซีรีส์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมการท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่า นโยบายอินเซนทีฟ 30% นี้ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนและสร้างผลงานในประเทศไทยมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้โดยตรงจากการถ่ายทำ แต่ยังส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น การบริการ ที่พัก ร้านอาหาร การขนส่ง รวมถึงการจ้างงานบุคลากรในประเทศ
นอกจากนี้ การที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกเลือกประเทศไทย ยังถือเป็นการส่งเสริม Soft Power ของไทยในเวทีโลกได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านการนำเสนอเรื่องราว วัฒนธรรม และความงดงามของประเทศผ่านสื่อภาพยนตร์ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากขึ้นในอนาคต
นโยบายนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับตนเองให้เป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน สร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวม.