สลช.เผยความคืบหน้า ‘กฎกระทรวงชุดลูกเสือ’ ถกกฤษฎีกา ชี้ใช้เวลา เตรียมออกแนวปฏิบัติชั่วคราว

กรุงเทพฯ, 29 เมษายน 2568 – ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการจัดทำร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยเครื่องแบบและการแต่งกายลูกเสือ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นและลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง

การจัดทำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกำหนดให้การแต่งกายของลูกเสือมีความคล่องตัว เหมาะสมกับกิจกรรมและบริบทของพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น เน้นความประหยัด คุ้มค่า แต่ยังคงไว้ซึ่งอุดมการณ์ ธรรมเนียมปฏิบัติ และพิธีการของลูกเสือ

ดร.วรัท กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะอนุญาตให้มีการใช้เครื่องแบบลำลองได้ เช่น ชุดนักเรียน หรือชุดพลศึกษา ในการทำกิจกรรมที่ไม่เป็นพิธีการ เพื่อความสะดวก คล่องตัว และประหยัด ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มชุดเครื่องแบบปฏิบัติการสำหรับการทำกิจกรรมพิเศษ เช่น การฝึกอบรม การเดินทางไกล การอยู่ค่ายพักแรม หรือกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อื่นๆ ที่ต้องการความเหมาะสมกับการเคลื่อนไหวและสภาพอากาศ โดยให้สถานศึกษาเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดการแต่งกายในกิจกรรมเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับพิธีการทางการลูกเสือและวันสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น วันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ยังคงกำหนดให้ใช้เครื่องแบบลูกเสือปกติในการเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งสถานศึกษาอาจพิจารณาให้มีเฉพาะกองลูกเสือเกียรติยศ หรือผู้แทนลูกเสือ เนตรนารี เข้าร่วมพิธีตามความเหมาะสม

เลขาธิการ สลช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าในขั้นตอนการพิจารณาทางกฎหมายว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นนัดแรก เพื่อนำเสนอความเป็นมา หลักการ และสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงนี้

“ในการประชุมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา มีการพิจารณาในหลายประเด็นอย่างละเอียด ทั้งในส่วนของเครื่องแบบ การแต่งกายของบุคลากรทางการลูกเสือ รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาพอสมควร” ดร.วรัท กล่าว

เนื่องจากกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา การนำเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบอีกครั้ง และขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา อาจต้องใช้เวลา ดังนั้น เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถานศึกษา มีแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจนในช่วงระหว่างที่ยังไม่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้อย่างเป็นทางการ ทาง สลช. เตรียมจัดทำหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติเพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ ให้สามารถนำไปปรับใช้ได้ต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *