สธ. เตือนสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ยังน่าห่วง ป่วยสะสมกว่า 3.3 แสน เสียชีวิตแล้ว 44 ราย ย้ำกลุ่มเสี่ยงเร่งฉีดวัคซีน

กรุงเทพฯ – กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ล่าสุด พบผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปี 2568 พุ่งสูงกว่า 3.3 แสนราย เสียชีวิตแล้ว 44 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะที่กลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี พบอัตราป่วยสูงสุด ย้ำประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเพื่อลดความรุนแรงและเสียชีวิตจากโรค

นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ว่า ในช่วงฤดูฝน สภาพอากาศมีความเหมาะสมต่อการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โควิด-19 ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และไข้ไวรัส RSV ส่งผลให้มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่

จากข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยสะสมรวม 333,982 ราย ในจำนวนนี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 45,975 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ 5-9 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 0-4 ปี และ 10-14 ปี

ที่น่าเป็นห่วงคือ มีรายงานผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 44 ราย ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ และความดันโลหิตสูง ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

นอกจากนี้ ยังพบรายงานการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเพิ่มขึ้นในสถานที่ที่มีผู้คนรวมตัวกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียนและเรือนจำ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขจึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของระบบคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในสถานที่เหล่านี้ หากพบผู้ป่วย ควรให้หยุดงานหรือหยุดเรียนและแยกผู้ป่วยทันที กรณีพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่เพื่อดำเนินการควบคุมโรค

นพ.ศักดา กล่าวต่อว่า กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กซึ่งมีอัตราการป่วยสูง และผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการรุนแรงและเสียชีวิต ขอให้ประชาชนที่ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ

สำหรับประชาชนทั่วไปและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเสี่ยง ขอให้ป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เช่น โรงพยาบาลหรือสถานที่แออัด รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วย ที่สำคัญที่สุดคือ ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันการป่วยหรือลดความรุนแรงของอาการป่วย

ปัจจุบัน วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี 2568 มีให้บริการสำหรับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ สถานบริการสาธารณสุขของรัฐทั่วประเทศ วัคซีนที่ให้บริการในขณะนี้เป็นสายพันธุ์วัคซีนโลกใต้ ซึ่งมีความครอบคลุมและคล้ายคลึงกับสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *