กรุงเทพฯ – น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เปิดเผยถึงแผนการเชิงรุกในการดึงดูดอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมากขึ้น โดยชูมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) ในอัตราที่สูงถึง 30% เป็นเครื่องมือสำคัญ

การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ซึ่งเป็นเวทีสำคัญระดับโลกสำหรับวงการภาพยนตร์ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 15,000 คน จาก 80 ประเทศทั่วโลก ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเน้นย้ำว่า แผนนี้มีเป้าหมายชัดเจนที่จะเร่งดึงคณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกประเทศไทยเป็นโลเคชั่นหลัก เพื่อกระตุ้นการสร้างรายได้เข้าประเทศให้ได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทภายในปีนี้

มาตรการ Cash Rebate 30% ถูกมองว่าเป็นปัจจัยดึงดูดที่สำคัญในการตัดสินใจของผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างชาติ “เราหวังว่าการคืนเงิน 30% จะสามารถดึงดูดผู้ผลิตภาพยนตร์จากทั่วโลกและจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก” น.ส.นัทรียา กล่าว

ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังชี้ให้เห็นถึงผลดีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในประเทศ โดยระบุว่า การถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยจะสร้างรายได้กระจายไปสู่หลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ธุรกิจบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำ รวมถึงชุมชนท้องถิ่นที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาพรวม และสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกที่แข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ

ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยมีความน่าสนใจและเป็นที่หมายปองของผู้สร้างภาพยนตร์ต่างชาติ นอกเหนือจากมาตรการส่งเสริมแล้ว ยังมาจากศักยภาพและความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น สถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม เมืองสมัยใหม่ และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ทีมงานและบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยที่มีความเป็นมืออาชีพ และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่ทำให้กระบวนการขออนุญาตต่างๆ สำหรับการถ่ายทำมีความสะดวก รวดเร็ว และเป็นมาตรฐานสากล ซึ่งความพร้อมเหล่านี้ทำให้หลายประเทศต่างต้องการมาศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ของไทย

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 22 แล้ว และคูหานิทรรศการของประเทศไทย (Thailand Pavilion) ในงานปีนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ผลิตภาพยนตร์ นักลงทุน หน่วยงาน Film Commission และบุคลากรในวงการภาพยนตร์จากทั่วโลก

ภายในงานเทศกาลภาพยนตร์ฯ เมืองคานส์ ยังมีกิจกรรมสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การประกาศรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d’Or) ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของเทศกาล การออกคูหานิทรรศการของประเทศต่างๆ เพื่อแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของตนเอง ตลอดจนการซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์จากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำทั่วโลก ซึ่งการเข้าร่วมงานนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทยในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและประชาสัมพันธ์ศักยภาพด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ของไทยในระดับสากล