เรื่องราวสุดทุ่มเทด้วยรัก: หญิงไทยกับความสำเร็จในการโคลนนิ่งสุนัข

เรื่องราวความรักความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ที่กลายเป็นประเด็นพูดถึงในสังคมและวงการวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นที่จังหวัดราชบุรี เมื่อ คุณพี่ไก่ หญิงวัย 50 ปี ตัดสินใจใช้เงินจำนวนมหาศาลถึง 6 ล้านบาท เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังประเทศเกาหลีใต้ เพื่อทำการโคลนนิ่ง “พะแพง” สุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก เพศเมีย คู่ใจที่จากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของเจ้าของสุนัขชาวไทยที่สามารถโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงที่ตนเองรักกลับคืนมาได้

คุณพี่ไก่เปิดเผยว่า “พะแพง” ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงธรรมดา แต่เป็นเสมือนลูกสาว เป็นเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต การจากไปของพะแพงทำให้เธอเสียใจอย่างมาก และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้ลูกสาวสี่ขาตัวนี้กลับคืนมาอีกครั้ง ด้วยความรักและความผูกพันที่ลึกซึ้งนี้เอง ทำให้คุณพี่ไก่ไม่ลังเลที่จะทุ่มเททั้งเงินและเวลาเพื่อเป้าหมายนี้

เธอเล่าว่าได้ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านสเต็มเซลล์ และเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีเทคโนโลยีและบริการด้านการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยง แม้จะทราบดีว่าค่าใช้จ่ายสูงมากถึง 6 ล้านบาท และกระบวนการก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งปีและพยายามหลายครั้ง แต่คุณพี่ไก่ก็ยังคงยืนยันที่จะทำ เพราะสำหรับเธอแล้ว พะแพงคือ “ที่พึ่งทางใจยามไม่มีใคร” ความหมายของพะแพงนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะประเมินค่าได้

คุณพี่ไก่ยอมรับว่าการตัดสินใจครั้งนี้อาจเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในแง่มุมของจริยธรรมและการแทรกแซงธรรมชาติ แต่เธอกล่าวว่าได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วถึงขั้นทำพินัยกรรมไว้ด้วย และพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจทั้งหมดของตัวเอง เธอเชื่อว่านี่คือความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และการนำพะแพงกลับมาก็ไม่ได้เป็นการทำร้ายใคร ในทางกลับกัน นี่คือการเติมเต็มช่องว่างทางจิตใจของเธอ

หลังจากความพยายามอันยาวนาน ลูกสุนัขตัวน้อยที่มีดีเอ็นเอตรงกับ “พะแพง” ต้นแบบ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ และถูกตั้งชื่อว่า “พะแพง” เช่นเดียวกัน ปัจจุบันลูกสุนัขพะแพงตัวใหม่มีอายุ 5 เดือน สิ่งที่น่าทึ่งคือ นอกจากจะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่คล้ายกับพะแพงตัวเดิมอย่างมากแล้ว พะแพงน้อยตัวนี้ยังสามารถเข้าใจคำสั่งภาษาไทยได้ ราวกับว่าความทรงจำบางส่วนจากพะแพงตัวเดิมยังคงอยู่

แม้ประเด็นการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงจะยังคงเป็นที่ถกเถียงในระดับสากลเกี่ยวกับประเด็นทางวิทยาศาสตร์ จริยธรรม และผลกระทบต่อธรรมชาติ แต่คุณพี่ไก่หวังว่าสังคมจะเข้าใจและเคารพในการตัดสินใจของเธอ ซึ่งเกิดจากความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อสัตว์เลี้ยงคู่ใจ

ปัจจุบัน คุณพี่ไก่ยังคงเก็บรักษาร่างของพะแพงตัวเดิมไว้อย่างดี โดยวางแผนว่าจะนำร่างของพะแพงมาฝังไว้ในบริเวณบ้านเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เรื่องราวความรัก ความทุ่มเท และความสำเร็จในการโคลนนิ่งสุนัขครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยง และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเติมเต็มความต้องการทางด้านจิตใจ