ไทยวา กรุ๊ป เดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว มุ่งเป้าหมายการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอาหารของเอเชียภายในปี 2573 ชูความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและซัพพลายเชน พร้อมตั้งเป้าหมายการเติบโตทางการเงินที่ชัดเจน ด้วยกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อย่างน้อยปีละ 1,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยวา กรุ๊ป เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะยังมีความผันผวน โดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ แต่ไทยวา กรุ๊ป ก็พร้อมปรับตัวเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำด้านอาหารในภูมิภาคเอเชียภายในปี 2573

กลยุทธ์สำคัญที่ไทยวา กรุ๊ป จะเร่งผลักดันคือ การพัฒนานวัตกรรมอาหาร ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยตั้งเป้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดให้ได้มากกว่า 10 รายการในทุกปี

ด้านเป้าหมายทางการเงิน บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะมี EBITDA อย่างน้อยปีละ 1,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2573 โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้ากลุ่มอาหาร และดำเนินโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัทฯ

นายโฮ เรน ฮวา กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ จะปรับเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) ให้เป็น 2 เท่า ภายในปี 2573 โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและพรีเมียม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูง พร้อมขยายไปยังตลาดใหม่ๆ

นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์หลักอย่างวุ้นเส้น ไทยวา กรุ๊ป ยังจะเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เช่น แผ่นแป้งข้าวเจ้า เส้นมันเทศ วุ้นเส้นสด วุ้นเส้นแห้ง ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทานแบบซอง เส้นหมี่สด เส้นหมี่แห้ง เส้นก๋วยเตี๋ยวออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง-พร้อมรับประทานอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่

นอกจากนี้ ไทยวา กรุ๊ป ยังเล็งเห็นโอกาสในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ Clean-label ผลิตภัณฑ์ปราศจากกลูเตน (Gluten-free) และปลอด GMO เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ

ปัจจุบัน ไทยวา กรุ๊ป มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปแล้วใน 35 ประเทศทั่วโลก และมีแผนที่จะขยายธุรกิจเชิงรุกไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และจีน โดยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำ 3 อันดับแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักในตลาดเหล่านี้ภายในปี 2573

เพื่อสนับสนุนการขยายตัวในระดับภูมิภาค ไทยวา กรุ๊ป ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายการขายและการจัดจำหน่ายอาหารแบบ B2B ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก ด้วยสำนักงานขาย การตลาด การจัดจำหน่าย และซัพพลายเชน รวม 10 แห่งใน 7 ประเทศ รวมถึงสำนักงานแห่งล่าสุดในประเทศฟิลิปปินส์

ในส่วนของธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นปรับปรุงต้นทุนในส่วนซัพพลายเชน เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์

กลยุทธ์การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบไปจนถึงการจัดจำหน่าย เป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโต โดยปัจจุบัน ไทยวา กรุ๊ป มีลูกค้า HVA มากกว่า 100 รายทั่วโลก ตอกย้ำถึงความสามารถในการนำเสนอโซลูชันแป้งมันสำปะหลังและส่วนประกอบอาหารที่ออกแบบได้ตามความต้องการของลูกค้า.