นายกฯ ไทย-เวียดนาม ยกระดับสัมพันธ์สู่ ‘หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน’ ลงนาม 8 ความตกลงสำคัญ ดันแผน ‘Three Connects’ สู่เป้าการค้า 2.5 หมื่นล้านเหรียญ

กรุงฮานอย, เวียดนาม – เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาลเวียดนาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย และนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนความตกลงและเอกสารความร่วมมือระหว่างสองประเทศรวม 8 ฉบับ ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญของการยกระดับความสัมพันธ์สู่ ‘หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน’

การลงนามและแลกเปลี่ยนความตกลงในครั้งนี้ ครอบคลุมหลากหลายมิติสำคัญ ดังนี้:

  • บันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยและเวียดนาม
  • การสนับสนุนงบประมาณโครงการสกัดกั้นยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
  • บันทึกความเข้าใจระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) กับธนาคาร BIDV เวียดนาม เพื่อสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจสีเขียวและเทคโนโลยีสมัยใหม่
  • เอกสารแสดงเจตจำนงความร่วมมือด้านการฝึกอบรมเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัย FPT
  • บันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์เวียดนามกับ Central Group (2026-2028)
  • บันทึกความเข้าใจระหว่าง WHA กับจังหวัดฮึงเอียน
  • การประกาศอนุมัติใบอนุญาตการลงทุนของ WHA ในจังหวัดทั้ญฮว้า
  • บันทึกความเข้าใจระหว่าง AMATA Vietnam กับจังหวัดฟู้เถาะ

ยกระดับสู่ ‘หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน’ และแผน ‘Three Connects’

ภายหลังพิธี น.ส.แพทองธาร และนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ได้ร่วมแถลงข่าว โดยนายกรัฐมนตรีไทยกล่าวขอบคุณรัฐบาลเวียดนามสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่นในการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกนี้ พร้อมยืนยันว่า การยกระดับความสัมพันธ์เป็น ‘หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน’ ในช่วงเวลาที่โลกมีความไม่แน่นอนสูง ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ โดย น.ส.แพทองธาร ได้เชิญผู้นำเวียดนามเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่โขง–ล้านช้าง ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพปลายปีนี้ รวมถึงเตรียมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปีในปี 2569

ในมิติเศรษฐกิจ ไทยและเวียดนามตกลงเร่งส่งเสริมความเชื่อมโยงผ่านแผน ‘Three Connects’ ซึ่งจะครอบคลุมความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Connect), เศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy Connect), และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy Connect) โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังจะผลักดันการประชุมคณะกรรมการการค้าร่วม (Joint Trade Committee) อำนวยความสะดวกสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ รวมถึงการขนส่งสินค้าผ่านเวียดนามไปยังตลาดจีนให้ราบรื่นยิ่งขึ้น

ความร่วมมือครอบคลุมหลายด้าน

ด้านความมั่นคง ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันต่อต้านยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการทำประมงผิดกฎหมาย พร้อมสกัดกั้นสารเคมีตั้งต้นและแลกเปลี่ยนข่าวกรองอาชญากรรมข้ามพรมแดน

ด้านโลจิสติกส์และคมนาคม มีการประกาศการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างเวียดนามกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศเส้นแรกของภาคอีสานที่เชื่อมตรงสู่เวียดนาม นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเดินทางทางบกผ่าน สปป.ลาว และทางน้ำระหว่างไทย–กัมพูชา–เวียดนาม

ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล การชำระเงินข้ามแดนด้วย QR Code การส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างภาคอีสานของไทยกับเวียดนาม และเส้นทางเรือสำราญสิงคโปร์–ไทย–เวียดนาม ก็เป็นอีกประเด็นที่เห็นพ้องร่วมกัน

ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะเพิ่มความร่วมมือในสาขา STEM, AI และเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัย FPT

น.ส.แพทองธาร ย้ำเจตจำนงในการผลักดันความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคและสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการสร้างสันติภาพ โดยเฉพาะในประเด็นเมียนมา พร้อมกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีเวียดนามเยือนประเทศไทยในโอกาสต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *