ในวันที่ 17 เมษายนนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำคณะผู้เจรจาเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาเรื่องมาตรการภาษีสินค้านำเข้าที่ประเทศไทยถูกตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 36% แม้ว่าขณะนี้มาตรการดังกล่าวยังอยู่ในช่วงชะลอ 90 วันก็ตาม

ตามกำหนดการที่โฆษกรัฐบาลเปิดเผย นายพิชัยและคณะจะเดินทางไปยังนครซีแอตเติลเพื่อพบปะกับนักธุรกิจกลุ่มต่างๆ ทั้งด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการลงทุนอื่นๆ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 20 เมษายน โดยจะมีนายพิชัย นริพทะพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร่วมสมทบ เพื่อเตรียมเข้าพบผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯ ในวันที่ 21 เมษายน

คณะเจรจาไทยได้เตรียมการล่วงหน้าโดยหารือกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย รวมทั้งบริษัทนำเข้าและส่งออกกับสหรัฐอเมริกา และคณะที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี จนได้กรอบเจรจา 5 หลักการสำคัญ ได้แก่

1. การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่เกื้อหนุนกัน โดยจะเพิ่มการนำเข้าพืชผลการเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพดและถั่วเหลือง
2. การบริหารจัดการด้านภาษีเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการนำเข้า
3. การลดการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers)
4. มาตรการตรวจสอบคัดกรองสินค้าเพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ ผ่านประเทศไทย
5. การหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ในสหรัฐฯ เช่น การขนส่งในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่รัฐอลาสกา และการแปรรูปสินค้าเกษตร

การเจรจาครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างสมดุลของผลประโยชน์ แม้ไม่จำเป็นต้องได้ประโยชน์เท่าเทียมกันทุกฝ่าย แต่ต้องไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบจนเกินไป