นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนเพื่อหารือมาตรการรับมือนโยบายภาษี Reciprocal Tariff ของสหรัฐอเมริกา โดยเน้นยุทธศาสตร์ ‘รู้เขา รู้เรา เร็ว แม่นยำ’ พร้อมเผยว่าสหรัฐฯ ตอบรับเจรจาแล้ว ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิด 5 มาตรการหลักเพื่อนำขึ้นโต๊ะเจรจา ตั้งเป้าผลลัพธ์แบบ Win-Win

การประชุมครั้งนี้มีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างครบถ้วน ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า การประกาศใช้มาตรการ Reciprocal Tariff และ Liberation Day ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการกำหนดกติกาการค้าโลกรูปแบบใหม่ที่อาจส่งผลกระทบวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการวางยุทธศาสตร์และมาตรการต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่บนหลักการรู้เขาและรู้เรา และรัฐบาลต้องอาศัยความเร็ว ซึ่งด้วยการจัดตั้งคณะทำงานมาตั้งแต่เดือนมกราคม ก่อนประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่งเสียอีก พร้อมประสานงานกับสหรัฐฯ มาตลอด นอกจากนี้จะต้องแม่นยำ เพื่อให้การตัดสินใจตั้งอยู่บนข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้าน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร เปิดเผยหลังการประชุมว่า ได้ข้อสรุป 5 ประเด็นสำคัญที่จะนำไปเจรจา ได้แก่ 1) เพิ่มการนำเข้าพืชผลทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์จากสัตว์จากสหรัฐฯ 2) ผ่อนคลายภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 100 รายการ 3) แก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าผ่านการลด Non-Tariff Barriers 4) ตรวจสอบคัดกรองสินค้าป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี และ 5) หาโอกาสการลงทุนในสหรัฐฯ

“สหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการให้ไทยลดภาษี แต่ต้องการความสมดุลทางการค้า เราต้องการผลลัพธ์แบบ Win-Win ที่ดีต่อทั้งสองฝ่าย” นายพิชัย กล่าว พร้อมย้ำว่าวิกฤตครั้งนี้แม้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นโอกาสในการยกระดับการผลิตและการทำงานของไทยให้เชื่อมโยงมากขึ้น