ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 เมษายน ถึงความเคลื่อนไหวภายในกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หลังจากมีรายงานฉบับหนึ่งจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอต่อ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยมีเนื้อหารายงานถึงพฤติกรรมของบุคคลที่ชื่อ ‘ทราย สก๊อต’ ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้างและมักปรากฏตัวร่วมกับภารกิจต่างๆ ของกรมอุทยานฯ

รายงานดังกล่าวได้ระบุถึงพฤติกรรมของนายทรายไว้ 6 ประการ ดังนี้:

1. การอ้างตัวและใช้อำนาจ: ระบุว่านายทรายมักจะอ้างตัวว่าเป็นที่ปรึกษาของอธิบดีกรมอุทยานฯ และใช้อำนาจดังกล่าวในการสั่งการให้เจ้าหน้าที่สนับสนุนภารกิจ รวมถึงขอใช้ยานพาหนะของอุทยานแห่งชาติ เช่น รถยนต์และเรือ โดยไม่ได้มีการขออนุญาตหรือแจ้งล่วงหน้า ซึ่งการกระทำเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อภารกิจประจำของอุทยานฯ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

2. การนำทีมงานและการดำเนินกิจกรรมโดยไม่ขออนุญาต: นายทรายมักนำทีมงานซึ่งบางส่วนเป็นชาวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่อุทยานฯ โดยไม่ขออนุญาต นอกจากนี้ การบินโดรนหรือการถ่ายคลิปวิดีโอต่างๆ ก็ไม่ได้รับการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ทุกครั้งที่นายทรายเข้ามาปฏิบัติภารกิจ มักมีตากล้องประมาณ 2-3 คน และผู้ดูแล (Bodyguard) 1 คน ร่วมเดินทางด้วยเสมอ รายงานยังระบุอีกว่า คลิปวิดีโอที่บันทึกได้นั้น นายทรายมักจะนำไปเผยแพร่ในช่องทางส่วนตัวของตนเอง โดยไม่เคยพบการเผยแพร่ผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการของกรมอุทยานฯ

3. การใช้คำพูดและพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น: มีการกล่าวถึงพฤติกรรมของนายทรายที่มักตักเตือนนักท่องเที่ยว ไกด์ คนเรือ หรือผู้ประกอบการในพื้นที่บ่อยครั้ง โดยมีการใช้คำพูดในลักษณะดูถูกเหยียดหยามหรือด้อยค่าผู้อื่น รวมถึงพาดพิงถึงระดับการศึกษาว่าต่ำกว่าตนเอง และอวดอ้างว่าตนเองเป็นนักอนุรักษ์ที่รักธรรมชาติมากกว่าผู้อื่น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ และทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำต้องประสบความลำบาก เนื่องจากผู้ประกอบการเข้าใจผิดว่านายทรายเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงตำหนิและกล่าวว่าเจ้าหน้าที่โดยรวม

4. ข้อกังขาเกี่ยวกับคุณวุฒิความเชี่ยวชาญ: รายงานตั้งคำถามว่านายทรายมีคุณวุฒิ ความเชี่ยวชาญ หรือผลงานด้านงานทางทะเลที่โดดเด่นชัดเจนอย่างไร ที่จะมีความเหมาะสมในการเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เนื่องจากเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปเพียงว่า นายทรายเป็นบุคคลที่ชื่นชอบการว่ายน้ำ

5. การสร้างภาพลักษณ์ผ่านคอนเทนต์: นายทรายมักสร้างคอนเทนต์ในช่องทางของตนเองที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีลักษณะโน้มน้าวให้ผู้รับชมมองเห็นภาพลักษณ์ที่ดีของตนเองในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว รายงานระบุว่านายทรายมักจะไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้น หรือไม่ได้ปฏิบัติงานจนเสร็จสิ้น

6. กิจกรรมอนุรักษ์ที่เหมือนมีวัตถุประสงค์แอบแฝง: นายทรายมักมีกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลที่ดูเหมือนจะมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัวแอบแฝงอยู่ เช่น กิจกรรมว่ายน้ำสำรวจขยะ หรือกิจกรรมดำน้ำลึกสำรวจปะการังในสถานที่และช่วงเวลาที่สัตว์ทะเลหายากเข้ามาในบริเวณนั้น ซึ่งเมื่อมีกิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องรับภาระในการเตรียมยานพาหนะ น้ำมันเชื้อเพลิง และอาหารสำหรับทีมงานของนายทราย

รายงานยังกล่าวถึงข้อจำกัดส่วนตัวของนายทรายในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม โดยระบุว่านายทรายไม่รับประทานอาหารทะเลและอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากทะเล ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการทำร้ายทะเล และน้ำดื่มจะต้องเป็นน้ำแร่เท่านั้น

ทั้งนี้ รายงานฉบับดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นโดยมีเจตนาที่คำนึงถึงภาพลักษณ์ที่ดีของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นสำคัญ