กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี: เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยถึงกระแสความนิยมอย่างสูงของผลไม้ไทยในตลาดเกาหลีใต้ โดยเฉพาะมะม่วง ทุเรียน และมังคุด หลังจากการเยือนกรุงโซล และหารือกับผู้บริหารห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทยคุณภาพพรีเมียม ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคชาวเกาหลี

การเยือนกรุงโซลในครั้งนี้ มีขึ้นภายหลังจากที่นายสุชาติ ได้เข้าร่วมงาน IGNITE Thailand-Korea Business Forum โดยได้ใช้โอกาสนี้สำรวจศักยภาพของผลไม้ไทยในตลาดแดนโสม และได้พบปะกับนายคิม จง ฮุน ผู้จัดการห้าง Lotte สาขาใหญ่ เพื่อหารือแนวทางในการเพิ่มโอกาสและช่องทางการซื้อขายผลไม้ไทยในอนาคต

ในโอกาสเดียวกันนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล ได้ร่วมมือกับห้าง Lotte ซึ่งเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเกาหลีใต้ จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทย ประกอบด้วย มะม่วง ทุเรียน และมังคุด ใน 7 สาขาของห้าง Lotte ทั่วกรุงโซลและจังหวัดใกล้เคียง ระหว่างวันที่ 11 ถึง 27 เมษายน 2568 กิจกรรมนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผลไม้ไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สำคัญของไทยในตลาดโลก

นายสุชาติ กล่าวเน้นย้ำว่า ผลไม้ไทยได้รับการยอมรับในฐานะสินค้าระดับพรีเมียม ซึ่งมีศักยภาพในการวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเกาหลีใต้ได้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยและเพิ่มการบริโภคผลไม้ไทยในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกรไทยโดยตรง ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายผลไม้ไทยตลอดช่วงการจัดกิจกรรมไว้ที่ 70 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณเกือบ 20 ล้านบาท

“ประเทศไทยมีสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงที่ต้องการนำเสนอให้ผู้บริโภคของเกาหลีใต้ได้รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดเกาหลีใต้ ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญและสามารถควบคุมคุณภาพได้ในระดับสากล” นายสุชาติ กล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้มอบนโยบายสำคัญให้ทีมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย–เกาหลีใต้ (FTA) ให้พิจารณาอย่างจริงจังในประเด็นการเปิดตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพสูงของไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง มังคุด และสับปะรด รวมถึง กุ้งสดและแปรรูป และเนื้อไก่สดและแปรรูป ซึ่งการเปิดตลาดสินค้าเหล่านี้จะเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างโอกาสทางการค้า เพิ่มมูลค่าการส่งออก และสนับสนุนรายได้ของเกษตรกรไทยในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

สำหรับมะม่วงไทยนั้น ถือเป็นสินค้าดาวเด่นในตลาดเกาหลีใต้ ผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้นิยมรับประทานมะม่วงไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากชื่นชอบในรสชาติที่หอมหวานและเป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับราคาที่เหมาะสม อีกทั้งยังมีการนำมะม่วงไทยไปพัฒนาเป็นเมนูใหม่ๆ ที่ถูกปากผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง พุดดิ้งมะม่วง เค้กมะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้ มะม่วงไทยยังเป็นที่นิยมในการนำไปมอบเป็นของขวัญในเทศกาลสำคัญต่างๆ อีกด้วย ทำให้คาดการณ์ว่าตลาดมะม่วงไทยในเกาหลีใต้จะยังคงสดใสและมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน เกาหลีใต้อนุญาตให้นำเข้าผลไม้สดจากประเทศไทยได้เพียง 6 ชนิดเท่านั้น ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน มังคุด มะพร้าว กล้วย และสับปะรด ซึ่งจากข้อมูลในปี 2567 มะม่วงเป็นสินค้าผลไม้ส่งออกอันดับ 1 ของไทยไปยังเกาหลีใต้ และเกาหลีใต้ก็เป็นตลาดส่งออกมะม่วงอันดับ 1 ของไทยด้วย โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 2,931 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 62.2 ของมูลค่าการส่งออกมะม่วงของไทยทั้งหมด และมีการขยายตัวอย่างน่าประทับใจถึงร้อยละ 132.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาความเชื่อมั่นและกระแสความนิยมของผลไม้ไทยในตลาดเกาหลีใต้ เกษตรกรไทยควรจะต้องให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานคุณภาพของผลไม้ส่งออกอย่างเข้มงวด อาทิ การตรวจสอบไม่ให้มีการจัดส่งมะม่วงและทุเรียนที่ยังอ่อนเกินไป รวมถึงการระมัดระวังในการตรวจสอบสารตกค้างและแมลงต่างๆ ในผลไม้ เพื่อให้มั่นใจว่าผลไม้ไทยที่ส่งออกไปถึงมือผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้นั้นมีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นที่ชื่นชอบอย่างต่อเนื่องในระยะยาว