นายกฯ แพทองธาร วางพวงมาลา รำลึกวีรชนเวียดนาม สานสัมพันธ์แน่นแฟ้น ไทย-เวียดนาม

ฮานอย, เวียดนาม – วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.30 น. ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา เพื่อรำลึกและแสดงความคารวะต่อเหล่าวีรชนนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิตในเหตุการณ์สำคัญเมื่อปี ค.ศ.1940 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์

อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ตั้งตระหง่านอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ ออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม โดยมีกลุ่มรูปปั้นที่สะท้อนถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักสู้เพื่ออิสรภาพของชาติ การมาวางพวงมาลาในครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีไทย ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อประวัติศาสตร์การต่อสู้ของเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านและพันธมิตรที่สำคัญของไทย

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี ณ อนุสาวรีย์บั๊กเซิน นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสบาดิ่งห์เดียวกัน สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นจุดที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ได้อ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 สุสานโฮจิมินห์เป็นสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถานอันสง่างาม สร้างขึ้นจากหินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานการออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยมเข้ากับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเวียดนาม

อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลและได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะบิดาแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ท่านมีบทบาทสำคัญในการนำพาประเทศสู่การประกาศเอกราชและการก่อตั้งประเทศ การเยือนและวางพวงมาลา ณ สุสานของท่าน เป็นการแสดงถึงความเคารพต่อผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ และตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจประวัติศาสตร์ร่วมกัน

การเข้าร่วมพิธีสำคัญ ณ สถานที่เชิงประวัติศาสตร์เหล่านี้ของนายกรัฐมนตรีไทย สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของประเทศไทยต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของเวียดนาม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีและความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างสองประเทศ

ต่อมาในเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และคณะ ได้เข้าร่วมการประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างประเทศไทยและเวียดนามต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *