นครพนม – เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 29 เมษายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยนครพนม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาภาษีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา และการร่วมมือกับประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา และการพูดคุยนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพของกลุ่มประเทศอาเซียน ในการรวมพลังทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองที่สำคัญในการเจรจากับสหรัฐฯ

"แต่ละประเทศก็ทำงานไป แต่ในกลุ่มอาเซียน เราจะรวบรวมกันว่ามีอะไรพิเศษที่มารวมกันได้ ในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ" น.ส.แพทองธาร กล่าว และเสริมว่า "เมื่อรวมกลุ่มของอาเซียนแล้ว จะมีประชากรเพิ่มจำนวนมาก จะเป็นน้ำหนักที่มากขึ้น เพื่อต่อรองกับสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประชุมกันนอกรอบ และจะมีการประชุมร่วมกันกับกัมพูชาด้วย"

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นที่อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวถึงสาเหตุที่สหรัฐฯ อาจไม่เจรจากับไทยว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคง จากกรณีการจับกุม นายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการด้านกองทัพ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการดูแลอยู่

"ทั้งหมดจะมีการเจรจาในภาพรวม อะไรที่เกี่ยวข้อง จะนำมาพูดคุยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ" น.ส.แพทองธาร กล่าว

สำหรับกำหนดวันในการเดินทางไปเจรจากับสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นภาษียังไม่เป็นที่ชัดเจน นายกรัฐมนตรีระบุว่า "วันยังไม่มีการระบุออกมา รวมถึงวันในการรวมตัวของกลุ่มอาเซียน เพราะต้องดูเหตุการณ์ ตอนนี้ความเร็วไม่ใช่ประเด็น แต่เป็นเรื่องความแม่นยำที่จะต้องกลับมาพิจารณาในข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นว่าการเจรจากับสหรัฐฯ มีอะไรที่ทำเพิ่มขึ้นได้ โดยกระทรวงการคลัง ได้หารืออย่างต่อเนื่อง"

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังได้กล่าวตอบโต้กระแสข่าวลือที่ว่าสหรัฐฯ ไม่ยอมเจรจากับไทย โดยถามผู้สื่อข่าวกลับว่าข่าวนี้มาจากไหน และกล่าวเน้นย้ำว่า "ถ้าเป็นข่าวลือในประเทศ ไม่อยากให้ลือแบบนี้ เพราะเรากับสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีตลอดระยะเวลาอันยาวนาน"

นายกรัฐมนตรีแสดงความกังวลว่า "การจะลือเพื่อทำประเด็นทางการเมือง ไม่ควร เราต้องผนึกกำลังกันไว้ และเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทำให้การเจรจาต่อรองของเราเข้มแข็ง ไม่ใช่มัวแต่คิดถึงประเด็นทางการเมือง ยิงกันเองก่อน เรายังไม่ได้มีอะไรที่จะไปคุย เราต้องแข็งแรงกันเองก่อนด้วย ไม่อยากให้ปล่อยข่าวลือแบบนี้"

ในส่วนของการเจรจาเพื่อทราบความต้องการของสหรัฐฯ ในยกแรกก่อนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "เรื่องความต้องการของสหรัฐฯ ต้องบอกว่า ก่อนที่จะมาแถลงแบบนี้ เราต้องคุยกันข้างหลังก่อน ไม่อย่างนั้นจะเกิดผลกระทบระหว่างประเทศ" พร้อมระบุว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการค้าอยู่ในขณะนี้ และมีการพูดคุยทุกแง่มุมเบื้องหลังให้เรียบร้อย

นายกรัฐมนตรียืนยันในท้ายที่สุดว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการทำงานและประชุมร่วมกันตลอด ไม่ได้หายไปไหน และมีการติดต่อประสานงานกับทางสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง