นายกฯ ไทย ยกหูยินดี ‘ลอเรนซ์ หว่อง’ นั่งนายกฯ สิงคโปร์คนใหม่ เสนออาเซียนผนึกกำลังรับมือภาษีสหรัฐฯ เวทีประชุมสุดยอดปลายเดือนนี้
เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ได้ทำการหารือทางโทรศัพท์กับ นายลอเรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการในนามของรัฐบาลไทย เนื่องในโอกาสที่นายลอเรนซ์ หว่อง และพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party – PAP) ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 14 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ในการหารือทางโทรศัพท์ นายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวแสดงความยินดีกับชัยชนะของนายลอเรนซ์ หว่อง และพรรค PAP ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของประชาชนชาวสิงคโปร์ที่มีต่อภาวะผู้นำและทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยผลการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค PAP ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนถึงร้อยละ 65.57 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า และยังคงรักษาที่นั่งในสภาไว้ได้อย่างแข็งแกร่งถึง 87 ที่นั่ง จากทั้งหมด 97 ที่นั่ง
น.ส.แพทองธาร ได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลไทยที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ของสิงคโปร์อย่างใกล้ชิดและสร้างสรรค์ โดยผู้นำทั้งสองต่างแสดงความยินดีที่จะได้พบปะและหารือร่วมกันอีกครั้งในโอกาสสำคัญคือ การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 60 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์ น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีลอเรนซ์ หว่อง เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็ตอบรับคำเชิญที่จะเดินทางเยือนสิงคโปร์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในทุกมิติ
ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้นำทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นคือ แนวทางการรับมือกับมาตรการการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและสร้างความท้าทายต่อเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียน
นายกรัฐมนตรีไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้เสนอแนะว่า ควรใช้โอกาสของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นเวทีหลักในการหารืออย่างจริงจังร่วมกับผู้นำทั้ง 10 ชาติสมาชิกอาเซียน เพื่อพิจารณาแนวทางและมาตรการร่วมกันในการรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ดังกล่าว โดยมองว่าการผนึกกำลังและความร่วมมือกันในระดับภูมิภาค จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอาเซียนในการเผชิญหน้ากับความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความร่วมมือและบูรณาการทางเศรษฐกิจภายในกลุ่มอาเซียนให้เข้มข้นยิ่งขึ้น
การหารือทางโทรศัพท์ครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวแรกในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้นำชุดใหม่ของไทยและสิงคโปร์ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้นในระดับภูมิภาค เพื่อรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน