นายกฯ ไทย-กัมพูชา กระชับสัมพันธ์แน่นแฟ้น ลงนาม 7 ข้อตกลง ตั้งเป้าค้าขาย 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ฉลอง 75 ปี
พนมเปญ, กัมพูชา – เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ณ วิมานสันติภาพ กรุงพนมเปญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ได้เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และร่วมพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ จากนั้นได้หารือเต็มคณะกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
ในการหารือครั้งนี้ ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจและผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมทั้งร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงสำคัญรวม 7 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือในหลากหลายมิติ ได้แก่:
- บันทึกความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท)
- บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมข้ามแดน
- หนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อปรับเปลี่ยนสาระสำคัญของความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกัมพูชา – ไทย
- บันทึกข้อตกลงด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
- บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือเรื่องแรงงานและการจัดทำข้อตกลงด้านการจ้างงานไทย – กัมพูชา
- บันทึกการหารือ สำหรับการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 57 (บ้านผักกาด – บ้านปรม จังหวัดไพลิน – ถนนหมายเลข 5 จังหวัดพระตะบอง) ราชอาณาจักรกัมพูชา
- ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาดอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
ภายหลังพิธีลงนาม นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดตราสัญลักษณ์ครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
น.ส.แพทองธาร กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเยือนในครั้งนี้ ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับการเปิดตัวตราสัญลักษณ์ร่วมกัน โดยกล่าวว่า การหารือกับ สมเด็จ ฮุน มาเนต เป็นไปอย่างราบรื่นและสร้างสรรค์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะยกระดับความร่วมมือในด้านสำคัญๆ ดังนี้
การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์: ยินดีกับการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม และยินดีกับการเตรียมเปิดสถานกงสุลใหญ่ของไทยที่เสียมราฐ และของกัมพูชาที่สงขลาในอนาคตอันใกล้
ความมั่นคง: ส่งเสริมความร่วมมือทางทหารเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพชายแดน ขอบคุณกัมพูชาสำหรับความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งหลอกลวงออนไลน์ และจะร่วมมือกันขจัดเครือข่ายอาชญากรรมตามแนวชายแดน นอกจากนี้ การลงนาม MOU สิ่งแวดล้อมข้ามแดน จะช่วยรับมือปัญหามลพิษ PM2.5 ได้ดียิ่งขึ้น
การพัฒนาพื้นที่ชายแดน: ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ณ พื้นที่ชายแดน ในโอกาสเปิดสะพานมิตรภาพฯ อย่างเป็นทางการ เร่งรัดการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ส่งเสริมความร่วมมือเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และเร่งเจรจาความตกลงขนส่งทางถนนและทางราง เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยง
เศรษฐกิจ: ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันจาก 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2027 ขอบคุณกัมพูชาที่สนับสนุนนักลงทุนไทย ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ในกัมพูชา สองฝ่ายเห็นพ้องที่จะประสานงานในกรอบอาเซียนและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
การท่องเที่ยว: ขับเคลื่อนข้อริเริ่ม “หกประเทศ หนึ่งจุดหมายปลายทาง” และปรับปรุงความตกลงการข้ามแดนเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว
แรงงาน: ส่งเสริมการจ้างแรงงานชาวกัมพูชาในไทยผ่านช่องทางถูกกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เหมาะสม
ความสัมพันธ์ระดับประชาชน: เสริมสร้างมิตรภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน มีการลงนามเอกสารจัดตั้งศูนย์พัฒนาทักษะแรงงานที่ปูนพนม และจะจัดกิจกรรมฉลอง 75 ปีตลอดทั้งปี
ภายหลังการแถลงข่าว สมเด็จ ฮุน มาเนต ได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีไทย ณ วิมานสันติภาพ